รองโฆษก ปชป.โพสต์เฟซบุ๊กซัด “พานทองแท้” เย้ยแม่อยากให้เลิก “เปรี้ยว” แต่พ่อสั่งลุย พร้อมจี้ “พจมาน” รักลูกหรือไม่ ถึงปล่อยลูกสู่ความขัดแย้งเหมือนพ่อ ย้อนแจงคดีซุกหุ้นศาลชี้โกงชาติเหตุใดถึงเอาลูกไปเกี่ยวข้อง เปรียบเหมือน “พ่อแม่รังแกฉัน” เผยเหตุที่ทำเพื่อชาติ
วันนี้ (13 ส.ค.) น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Mallika Boonmeetrakool ตอบโต้ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่โพสต์เฟซบุ๊กโจมตี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อย่างต่อเนื่อง โดยเล่าเรื่องราวสะท้อนบทบาทความเป็นแม่ของ “พจมาน” ที่มีต่อลูก “พานทองแท้” ที่เข้าข่าย “พ่อแม่รังแกฉัน” หรือไม่? พร้อมระบุว่าเป็นมหากาพย์..ตอน 1 จากมัลลิกาถึงคุณหญิงแม่ “พจมาน”
น.ส.มัลลิการะบุว่า ความจริงเด็กคนหนึ่งซึ่งใช้ความคิดคนอื่นเขียนเรื่องเท็จเป็นเรื่องยาวแล้วต้องขึ้นศาลด้วยเรื่องเท็จนั้นๆ ดิฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่าเวลาขึ้นศาลจะพูดน้อยประโยคเดียวสั้นๆ เหมือนตอนคดีซุกหุ้นหรือไม่ ทราบมาว่าครอบครัวของน้อง “ถกเครียดความเห็นแตก” กันน่าดูว่าจะปล่อยให้ “เปรี้ยว” และคณะเขียนต่อไปในนามโอ๊คหรือจะหยุด!! ทราบมาว่าแม่อยากให้หยุดแต่กุนซือของพ่อบอกให้ปั้นลูกรูปแบบนี้ต่อไปจนกว่าพ่อจะตายเพราะ “สะใจดี” ถูกผิดอย่างไรไม่รู้ แต่..“สะใจดี”
น.ส.มัลลิการะบุต่อว่า ดิฉันมีเรื่องมากมายใหญ่กว่านี้ที่ต้องทำ แต่การเจียดเวลามาเขียนมหากาพย์ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรง แม้ว่า “ดิฉันจะไม่อยากเขียนเพื่อสร้างราคาให้กับเด็กที่ถูกพ่อแม่รังแกคนนี้ก็ตาม” แต่ความเห็นของแฟนเพจบนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์สรุปกันว่า การจะปล่อยให้ใครสร้างนิยายเท็จหลอกลวงประชาชนเรื่องแล้วเรื่องเล่านั้นมันไม่ใช่ “มัลลิกา”
ดิฉันจึงขอเริ่มนิมิตหมายวันแม่นี้..เขียนเปิดผนึกด้วยความปรารถนาดีไปถึงคุณแม่ของน้องโอ๊คว่า “คุณหญิงแม่ช่วยเอาไอ่ลูกไม่ได้ความคนนี้ไปเก็บได้แล้วค่ะก่อนจะมีเรื่องอีกมากมายที่คุณหญิงแม่ก็รู้ดีว่ามีเรื่องอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่คอนโด บ้านหรู บนรถ ที่วัด และหน้าตึกชิน 3 ตอนรถจอดสนิทเปิดแอร์เย็นฉ่ำหลายชั่วโมงนั่น และคุณหญิงแม่ก็คงจะรู้จักเพื่อนลูกสารพัดคนเหล่านั้นดีว่ามีพฤติกรรมพาลูกของคุณหญิงแม่ไปสร้างวีรกรรมใดไว้บ้าง ซึ่งดิฉันกำลังงงเล็กน้อยว่า จากที่คุณหญิงประคบประหงมคอยดูแลแก้ไขปัญหามากมายตั้งแต่เด็กแล้วบัดนี้เลิกดูแลแล้วหรือคะ ถึงผลักไสให้เขาเป็นตัวแทนของความขัดแย้งได้มากเท่าๆ กับพ่อของเขาอีกคนแล้ว นี่ถามจริงรักลูกจริงไหม”
น.ส.มัลลิกายังระบุต่อว่า ดิฉันขอถามว่าใช่ลูกของคุณหญิงแม่หรือไม่ที่มีชื่อบนคำพิพากษาของศาลในคดีซุกหุ้นจนศาลสั่งยึดทรัพย์ที่ซุกเหล่านั้น ทำไมคุณหญิงแม่พจมานซื้อหุ้นทหารไทย 1,500 ล้านบาท แต่ขายให้ลูก 4,500 ล้านบาท กลายเป็นหลักฐานของการโกหกจนศาลพิสูจน์ได้ เพราะคุณหญิงแม่พจมานซื้อหุ้น TMB 150 ล้านหุ้น หุ้นละ 10 บาทเป็น 1,500 ล้านบาท แต่ได้ TMB-C1 แถมมา 300 ล้านหน่วยฟรี แต่อุปโลกน์ ลวงโลก หลอกลูก และให้การเท็จต่อศาลว่าขายที่ราคาพาร์ จึงขายให้ที่ 4,500 ล้านบาทในเวลาเพียงไม่เกิน 5 เดือนเท่านั้น ใช่หรือไม่คะ
น.ส.มัลลิการะบุต่ออีกว่า ครอบครัวคุณหญิงแม่นี้อาจใช้อำนาจรัฐค้าขายเอาเปรียบประชาชนและภาครัฐมาเสมอ ดิฉันไม่ได้สงสัยเพราะเหตุนี้จึงไม่ได้ไปร่วมสังฆกรรมด้วยตั้งแต่คุณพ่อทักษิณชวนเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทยเมื่อปี 2547 ไงละคะ ดิฉันเห็นว่าพฤติกรรมคุณหญิงแม่น่ากลัวกว่าคุณพ่อเสียอีก คุณหญิงแม่จะเอาเปรียบลูกอย่างไรในกรณีคดีซุกหุ้นดิฉันก็จนปัญญาจะอธิบายให้ลูกชายคุณหญิงทราบได้ เพราะขนาดข้อสอบแกยังลอกมาจนเป็นข่าวพาดหัวหลายปีก่อนเลย แล้วดิฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาจะฉลาดพอจะรับฟังรู้เรื่อง การที่เอาของฟรีที่แถมมา คือ TMB-C1 ขายลูก 3,000 ล้านบาทนั้น ก็เพราะเป็นทางผ่านให้ลูกคุณหญิงแม่ชื่อพานทองแท้ จ่ายคืนเงินปันผลที่ได้รับจากหุ้นชินคอร์ป นั่นคือการซุกหุ้นชินคอร์ปนั่นเอง ใช่ไหมล่ะคะ
น.ส.มัลลิการะบุต่อว่า พานทองแท้ ชินวัตร ก็กำลังเจริญรอยตาม ซื้อหุ้น TMB แถม TMB-C1 จากแม่มาด้วยมูลค่า 4,500 ล้านบาท ซึ่งแม่ซื้อมา 1,500 ล้านบาทในเวลาไม่เกิน 5 เดือน น้องจะรู้ไหม รู้หรือเปล่าว่าซื้ออะไร ราคาเท่าไร รู้ตัวไหมว่าพ่อกับแม่ใช้เขาทำหน้าที่เป็นนอมินี แต่พยายามให้ประชาชนปักใจเชื่อว่าเป็น “ครอบครัวทำมาหากิน” และน้องซึ่งไม่เคยทำมาหากินเองจะรู้ทันเหลี่ยมของพ่อแม่หรือไม่ และที่โบราณท่านว่า “พ่อแม่รังแกฉัน” มันเป็นเช่นนี้เอง นอกจากเป็นการรังแกลูกแล้วช่วยสอนเขาด้วยเวลาที่เหลือด้วยค่ะว่าเรื่องราวที่พ่อแม่ร่วมกันทำมาทั้งหมดในคดีซุกหุ้นและคดีอื่นๆ ที่ศาลท่านพิพากษาล้วนเป็นการรังแกชาติ คอร์รัปชันเงินแผ่นดิน เอาเปรียบผู้อื่นด้วยอำนาจ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการโกงค่ะ เผื่อเขาจะปรับตัวเสียใหม่
น.ส.มัลลิการะบุต่ออีกว่า คุณหญิงเคยบอกลูกอ่านคำพิพากษาศาลบ้างไหมคะ อย่าปกปิดเขาเลยเพราะคุณหญิงก็มีวันตายใช่ว่าจะอยู่ไปจนอมตะที่ไหนกัน สืบเนื่องจากการ “ซุกหุ้น” ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กว่า 7 หมื่นล้านบาท ศาลยึดเข้าคลังแผ่นดิน 4.6 หมื่นล้านบาทเพราะหลักฐานที่พบการจ่ายเข้าในบัญชีท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในสมัยที่เป็นวุ้นอยู่ กับนายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ดังหลักฐานต่างๆ ชัดเจนอันเป็นเหตุให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ได้ตัดสินด้วยคะแนน 9 ต่อ 0 ว่าเป็นการซุกหุ้นจริง ตรงนี้เขาควรได้อ่านและทบทวนเอกสารชื่อเขาทั้งหมด
น.ส.มัลลิการะบุต่ออีกว่า ท้ายนี้ อย่าได้โกรธใครต่อใครอีกต่อไปเลย เพราะใครต่อใครรวมทั้งดิฉันล้วนปรารถนาดีต่อชาติของเรา และจะเอาใจช่วยถ้าคุณหญิง “หาทางออกที่ดีกว่าที่กำลังทำกันอยู่นี้”
