โฆษกเพื่อไทยคาดวิปรัฐนัดถกความพร้อมซักฟอกพรุ่งนี้ พร้อมเรียก ส.ส.ประชุมให้ รมต.เตรียมข้อมูลแจงฝ่ายค้านวันอังคาร เย้ย ปชป.เลื่อนอภิปรายไปกันยาฯ ไม่มีข้อมูลใหม่ โอ่นายกฯ โชว์ภาวะผู้นำดันนโยบายเพียบ ยันไม่มีตั้งองครักษ์พิทักษ์นายหญิง ไล่ตอบ 10 คำถามให้ชาวบ้านหายสงสัย ย้ำรัฐเร่งแก้ไฟใต้ แนะร่วมมือตั้งคณะทำงานประสานงานรัฐ บอกพันธมิตรฯ ไม่ต้องกังวลสัปดาห์นี้ไม่มีถกปรองดอง
วันนี้ (5 ส.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ในวันที่ 6 ส.ค.จะมีการประชุมวิปรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล เชื่อว่าจะมีการหารือถึงความพร้อมของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลในการรับมือการอภิปรายของฝ่ายค้าน นอกจากนี้ ในการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทยในวันที่ 7 ส.ค.จะมีการหารือถึงการเตรียมความพร้อมของรัฐมนตรีของพรรคที่รับผิดชอบกระทรวงต่างๆ ด้วย เพื่อให้รัฐมนตรีและข้าราชการการเมืองรวบรวมข้อมูลเพื่อชี้แจง ทั้งนี้ เชื่อว่านายกฯ และรัฐบาลพร้อมที่จะชี้แจง แค่ขอให้ฝ่ายค้านตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการที่ฝ่ายค้านตีปี๊บว่าจะยื่นขอเปิดอภิปรายใยช่วงต้นเดือน ส.ค. แต่สุดท้ายก็ให้ข่าวว่าจะเลื่อนออกไปเป็นเดือน ก.ย.เพราะกำลังรวบรวมข้อมูลอยู่นั้น เพราะฝ่ายค้านคงไม่มีข้อมูลใหม่ คงเป็นการตัดแปะข่าวจากหนังสือพิมพ์หรือเก็บข้อมูลจากสื่อมวลชนเหมือนที่ผ่านมาใช่หรือไม่ ทั้งๆ ที่นโยบายรับจำนำข้าว การแก้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้เป็นเรื่องที่ตัวเองก็เคยบริหารและแก้ปัญหาไม่ได้เหมือนกัน
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า ตนไม่ห่วงเรื่องการชี้แจงของรัฐบาล เพราะที่ผ่านมานายกฯ โชว์ภาวะผู้นำในการผลักดันนโยบายมากมาย ซึ่งในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพียงสัปดาห์เดียว ทั้งนโยบายฟรีไว-ไฟ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และบัตรเครดิตเกษตรกร ถูกผ่านออกมาเป็นนโยบายสำคัญ ถึงแม้ว่าฝ่ายค้านจะมองไม่เห็นหรือแกล้งหลับตาเพราะกลัวรัฐบาลจะได้คะแนน แต่ตนเชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศเห็น นอกจากนี้ จะไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ และรัฐมนตรีด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายนายกฯ และรัฐบาลนั้น ตนมองว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ควรตอบคำถาม 10 ข้อของตนก่อนเพื่อให้ประชาชนหายสงสัยและมั่นใจในตัวผู้นำฝ่ายค้าน ดังนี้ 1. นายอภิสิทธิ์ หาใบ สด.9 ได้แล้วหรือยัง 2. ที่นายอภิสิทธิ์จะฟ้องร้อง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณฑัต รมว.กลาโหม ที่ถูกมองว่าเป็นการฟ้องแก้เกี้ยวนั้น ฟ้องแล้วหรือยัง จะได้นำหลักฐานไปพิสูจน์ในศาล 3. นายอภิสิทธิ์ได้รับพระราชทานยศทหาร แต่ทำไมไม่ใช้ยศที่ได้รับพระราชทานมานำหน้าชื่อตัวเอง 4. รถยนต์กันกระสุนที่ใช้ภาษีประชาชนในการจัดซื้อราคาเกือบสิบล้านบาทนั้น นายอภิสิทธิ์คืนแล้วหรือยัง และค่าซ่อมบำรุงขณะนี้ใครเป็นคนจ่าย
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า 5. การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ซึ่งต้องแนบชื่อนายกฯ สำรองด้วยนั้น ตนได้ข่าววงในของพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะไม่เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์เพราะขายไม่ออกแล้วจริงหรือไม่ 6. ครม.เงาของพรรคประชาธิปัตย์ใช้เครื่องหมาย ครม.จริงในห้องประชุมที่พรรคประชาธิปัตย์ด้วยนั้น อยากถามว่าเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือเสพติดในอำนาจหรือไม่ 7. พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงไว้ว่า 99 วันจะดับไฟใต้ แต่เป็นรัฐบาลมาเกือบ 1,000 วันก็ยังแก้ไม่ได้ใช่หรือไม่ 8. การที่พรรคประชาธิปัตย์ให้นายกษิต ภิรมย์ ยื่นฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศ กรณีเหตุการณ์ฆ่าตัดตอนนั้นจะกลายเป็นเรื่องตลกในสายตานานาชาติ เป็นแค่การฟ้องแก้เกี้ยวใช่หรือไม่ เพราะไทยยังไม่ได้ลงสัตยาบันในอนุสัญญาว่าด้วยศาลอาญาระหว่างประเทศ อยากถามว่าเป็นแค่เกมการเมืองใช่หรือไม่ 9. วันนี้นายอภิสิทธิ์ยังมี 2 สัญชาติอยู่หรือไม่ และคืนสัญชาติอังกฤษไปแส้วหรือยัง เพราะคนที่เป็นอดีตนายกฯ ต้องถือสัญชาติเดียวจึงจะเหมาะสม และ 10. การที่นายอภิสิทธิ์สวมเสื้อแดงขึ้นเวทีนั้น มีเจตนาอย่างไร หรือแค่จะเย้ยหยันคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยขอโทษคนเสื้อแดงเลย
โฆษกพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่านายกฯ ไม่แสดงภาวะความเป็นผู้และลอยตัวเหนือปัญหาในเรื่องความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ว่า ตนมองว่าเป็นแค่เกมการเมืองของฝ่ายค้านที่ต้องการลดความน่าเชื่อถือของนายกฯ และรัฐบาล ทั้งๆ ที่นายกฯ เร่งดำเนินการแก้ปัญหามาตั้งแต่เป็นรัฐบาล แต่การดับไฟใต้นั้นไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาประชาสัมพันธ์รายวัน ล่าสุดนายกฯ ก็สั่งให้เร่งหามาตรการที่จะแก้ปัญหาให้ได้โดยเร็ว แม้ว่าจะไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขได้อย่างทันทีทันใด เพราะเป็นปัญหาที่สะสมมานาน ต้องละเอียดอ่อน และต้องบูรณาการในการแก้ปัญหา ดังนั้น หากฝ่ายค้านเลนอวิธีแก้ปัญหาหรือตั้งคณะทำงานขึ้นมาประสานกับรัฐบาลจะดีกว่า อย่ามือไม่พายเอาเท้าราน้ำ เชื่อว่านายกฯ พร้อมรับฟัง
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวด้วยว่า ในวันที่ 7 ส.ค.จะมีการประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่มีวาระการประชุมเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ดังนั้น การประชุมสภาฯ ในวันที่ 8 ส.ค.จะไม่มีการพิจารณาเรื่องร่าง พ.ร.บ.ปรองดองฯ ในสภาฯ อย่างที่ฝ่ายค้านและกลุ่มพันธมิตรฯ กังวลแน่นอน