xs
xsm
sm
md
lg

ยิ่งลักษณ์อำมหิตต่อประชาชน จะรักษาแผ่นดินไว้ได้อย่างไร?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายงานการเมือง

ภาพ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระริกระรี้ดีดดิ้นครวญเพลงบนเวทีงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล ในขณะที่ชาวปัตตานีอยู่กับความมืดมิดไฟดับทั้งเมือง จากเหตุระเบิดที่โรงแรมซี.เอส.ปัตตานี

ต้องบอกว่าสะท้อนความขาดจิตสำนึกอย่างยิ่ง อาจจะเรียกได้ว่าเป็นความหยาบกระด้างเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะเป็นได้

ในขณะที่คนไทยส่งใจไปช่วยเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวปัตตานีและทหาร ตำรวจ ที่ต้องเสี่ยงชีวิตปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ร้องเพลง “สุขกันเถอะเรา” หรืออยากจะบอกกับประชาชนให้เห็นกันชัดๆ ว่า

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีความสุขฉ่ำล้นบนคราบน้ำตาของชาวใต้

ลำพังแค่ 1 ปีที่ผ่านมาบริหารงานห่วยแตก คิดช่วยแต่พี่ชาย ก็ยังพอทำใจว่าคนไทยส่วนหนึ่งเลือกแล้วให้ประเทศมีผู้นำโง่มาบริหารบ้านเมือง รอให้ชาติฉิบหายแล้วเลือกกันใหม่อีก 3 ปีข้างหน้าตามกติกา เพราะทำอย่างอื่นไม่ได้ เนื่องจากคนไทยคือผู้หยิบยื่นชะตากรรมนี้ให้กับบ้านเมือง

ยังพอเข้าใจได้ว่าที่ต้องทำเพื่อพี่ชายแม้จะขัดหลักนิติรัฐ นิติธรรม ทำลายระบบของประเทศ ก็เพราะสายเลือดที่ตัดไม่ขาด

แต่เรื่องที่ไประรื่นร้อง 5 เพลงรวด สุขสะบัดอยู่บนเวที ทั้งๆ ที่รุ้ว่าชาวปัตตานีอยู่ในภาวะขวัญผวานี่ ต้องถามว่า ผีห่าซาตานตนใดสิงสถิตในดวงใจให้อำมหิตต่อเพื่อนร่วมชาติที่เป็นประชาชนภายใต้การปกครองของตัวเองได้ถึงเพียงนี้

ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในต่างประเทศรับรองได้ว่า ถูกสื่อมวลชนที่ซื้อไม่ได้รุมถล่มเละจนเกิดกระแสสังคมกดดันให้ ผู้หญิงใจเยี่ยงนี้ต้องพ้นจากตำแหน่งผู้นำประเทศอย่างแน่นอน

แต่นี่เป็นประเทศไทยที่สื่ออยู่ในภาวะถูกแทรกแซง แทรกซื้อ แทรกซึม และสมยอม ผู้หญิงที่ชื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมเถลิงอำนาจได้อย่างปกติสุข โดยไม่ยี่หระต่อความรู้สึกของประชาชน

ความจริงจะโทษผู้หญิงใจไม่ปกติคนนี้เพียงคนเดียวก็คงไม่ถูก แต่ภาพที่เกิดขึ้นกลางงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล ต้องบอกว่า ผีเน่ากับโลงผุ บนเวทีดังกล่าวมีอดีตนายกรัฐมนตรีอีก 2 คน ที่อยู่ในภาวะไม้ใกล้ฝั่ง ก็ร่วมระริกระรื่นกับเขาด้วย ไม่มีสำนึกที่จะคิดถึงประชาชนที่กำลังเดือดร้อนแม้แต่น้อย

ยิ่งลักษณ์ บรรหาร ศิลปอาชา และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หนึ่งนายกรัฐมนตรี กับสองอดีตนายกที่ชื่นมื่นมีความสุขได้ท่ามกลางความทุกข์ทนและคราวน้ำตาของชาวใต้

เมื่อหัวขบวนเป็นเช่นนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม จึงไม่ใส่ใจที่จะดูแลงานด้านความมั่นคงตามหน้าที่ของตัวเอง แต่กลับทำตนเป็น “รัฐมนตรีช่วยว่าความ” ให้ “คางคกตู่” เอาเวลาที่ควรจะทุ่มเทเพื่อบรรเทาสถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ มาค้นหาเอกสารย้อนหลังไป 20 กว่าปี เพื่อเอาผิด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ให้คางคกเอาไปใช้เป็นหลักฐานสู้คดีหมิ่นประมาทที่กำลังเพลี้ยงพล้ำ

ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกที่คนระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทุ่มเทสรรพกำลังในการค้นหลักฐานเพื่อเอาผิดกับชายไทยที่ถูกกล่าวหาว่าไม่ผ่านการเกณฑ์ทหารอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะประเทศอื่นคงไม่มี “รัฐมนตรีช่วยว่าความ” เหมือนที่ พล.อ.อ.สุกำพล ลดชั้นตัวเองไปรับใช้คางคก

ไฟใต้ที่กำลังลุกโชนอีกรอบ นอกจากจะเป็นปัญหาที่สั่งสมมายาวนาน จากยุค “โจรกระจอก” ที่ นักโทษชายหนีคดีสร้างตราบาปไว้กับคนภาคใต้แล้ว ยังปะทุขึ้นเพราะความไม่เอาไหน ขาดความเอาใจใส่ของคนเป็นน้องสาวที่ได้ประเทศไทยเป็นของเล่นทางการเมืองด้วย

1 ปีที่ผ่านมา ยิ่งลักษณ์แทบไม่เคยพูดถึงปัญหาภาคใต้ นอกจากการแถลงตามโพยในสภา จะเอ่ยปากก็ต่อเมื่อมีเหตุร้ายแรงพาดหัวตัวไม้ในหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์เท่านั้น เช่น กรณีคาร์บอมบ์ที่หาดใหญ่ ก็ออกมาแสดงความเห็นพอเป็นพิธี ตั้ง ยงยุทธ วิชัยดิษฐ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา สองรองนายกฯไปดูแลแก้ปัญหา

ทั้งๆ ที่อำนาจตามกฎหมายที่เขาต้องการให้เกิดการบูรณาการในการแก้ปัญหาสั่งการกับทุกหน่วยงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้นายกรัฐมนตรีเป็นทั้ง ผอ.ศอ.บต.และ ผอ.กอ.รมน.และประธาน สมช.

แต่ ยิ่งลักษณ์ เลือกที่จะโยนความรับผิดชอบทั้งหมดให้คนอื่น เพื่อลอยตัวออกจากปัญหา

พอเรื่องซาลงนักข่าวไม่ได้ทวงถาม ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามยถากรรม แถมยังซ้ำเติมปัญหาด้วยการโยกย้ายข้าราชการที่มีความเข้าใจต่อการแก้ปัญหาเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองวางคนของตัวเองไปทำหน้าที่ เริ่มตั้งแต่การย้าย ภาณุ อุทัยรัตน์ ออกจากตำแหน่งเลขาธิการ ศอ.บต.ตั้งไปทำหน้าที่แทน

ย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี ไปตบยุงเป็นที่ปรึกษานายกฯ ทั้งที่มีความรู้ความเข้าใจต่องานด้านความมั่นคงและทำงานแก้ปัญหาพื้นที่ภาคใต้มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพียงเพราะต้องการเปิดทางให้ตำแหน่งเลขา สมช.ว่างลง เพื่อเขี่ย พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิศรี ออกจาก ผบ.ตร.แล้วดันก้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายพี่สะใภ้ตัวเองได้เกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผบ.ตร.

ไม่เพียงเท่านั้นยังย้าย สมเกียรติ บุญชู รองเลขาฯ สมช.ออกจากตำแหน่ง เอา พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ไปทำหน้าที่แทนตามใบสั่งจากดูไบ

เป็นการตัดสินใจเพื่อการเมืองไม่ใช่เพื่อบ้านเมือง เป็นการตัดสินใจเพื่อการเมืองโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านความมั่นคง

เพนตาก้อนในกรุงเทพฯ ที่ ยิ่งลักษณ์ จะบริหารตามปากของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงนั้น ไม่เพียงจะไล่ล่าผู้ก่อการร้ายอย่างบิน ลาเดนไม่ได้ แต่จะทำให้ภาคใต้ลุกเป็นไฟ และความหวังของกลุ่มก่อความไม่สงบที่จะแบ่งแยกด้ามขวานทองออกจากแผนที่ประเทศไทยเรืองรองขึ้นมาในบัดดล

นายกฯ และ ครม.ขาดจิตสำนึกแบบนี้ จะรักษาแผ่นดินนี้ได้อย่างไร?

กำลังโหลดความคิดเห็น