“ยุทธศักดิ์” ระบุนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่ความไม่สงบ เหตุอยู่ระดับนโยบายรอฝ่ายปฏิบัติรายงาน เผย 24 ก.ค. “ประยุทธ์” ลงพื้นที่ตรวจสอบ ชี้ช่วงรอมฎอน คนร้ายชอบก่อเหตุ พร้อมปรับกำลังป้องกัน ปชช.-ปัดกังวลหลุด ครม. ส่วน “อภิสิทธิ์” หนีทหารใกล้ได้ข้อสรุป
วันนี้ (23 ก.ค.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีข่าวการโจมตีนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ด้วยตัวเองว่า นายกฯ ไม่ต้องลงไปเพราะอยู่ในระดับนโยบาย หากนายกฯ ไป เจ้าหน้าที่ก็ต้องไปรักษาความปลอดภัย และก็ต้องมารายงานนายกฯ ซึ่งไม่จำเป็นเพราะนายกฯ ได้ให้นโยบายไปแล้ว 7 ข้อ และเป็นนโยบายที่ถูกต้อง แต่ฝ่ายปฏิบัติต่างหากที่ยังมีปัญหาอยู่ ดังนั้นนายกฯ จึงสั่งการให้ตน และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาทหารบก ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายปฏิบัติลงไปในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหา และรายงานให้นายกฯ ทราบ โดยหลักแล้วต้องดูฝ่ายปฏิบัติก่อนว่าทำงานเป็นอย่างไร จากนั้นฝ่ายนโยบายถึงจะลงไป โดยวันอังคารที่ 24 ก.ค.นี้ ผบ.ทบ.จะลงไปในพื้นที่ก่อน แต่ตนติดต้อนรับ พล.อ.เต็ง เส่ง ก็จะลงไปพร้อมกันในครั้งต่อไป
เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำซ้อน และบ่อยครั้งมากขึ้น พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ได้เตือนแล้วว่าช่วงรอมฎอนกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะแสดงพลังของเขา ซึ่งฝ่ายข่าวของเราดีเพราะเขาแจ้งข่าวมาตลอด แต่ที่มันเกิดเหตุการณ์อีกก็ต้องไปปรับวิธีการปฏิบัติให้ดีขึ้น ซึ่งครั้งนี้กลุ่มผู้ก่อการไม่ได้ทำกับทหาร แต่ไปทำกับประชาชนที่เป็นเป้าหมายที่อ่อน และเขาไม่ได้ระมัดระวังตัวเอง มันก็แย่ ส่วนก่อนหน้านี้ที่เคยทำกับทหารก็เพราะมีความชะล่าใจ ถือว่านั่งรถหุ้มเกราะไปก็เลยโดน แม้จะไม่เกิดความเสียหายแต่ทหารก็ได้รับบาดเจ็บเพราะไม่ได้คาดเข็มขัด
พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีข้อเท็จจริงเรื่องการเกณฑ์ทหารของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ครั้งนี้คงจะเรียบร้อยแล้ว แต่โดยส่วนตัวยังไม่เห็นหลักฐาน คงต้องดูรายละเอียด ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีชื่อที่จะถูกปรับออกจากการเป็นรองนายกรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ครั้งต่อไปนั้น ตนไม่ทราบ แต่ส่วนตัวไม่เป็นห่วง และไม่กังวลเลย หากจะต้องถูกปรับออก เพราะตนมีงานทำตลอด