“เรืองไกร” ยื่นศาล รธน.ยุบ 6 พรรคการเมือง พร้อม 2 องค์กรอิสระ ฐานสนับสนุนให้มีการแก้ไข รธน.ล้มล้างการปกครอง ในวาระ 1 และ 2 ขณะเดียวกันเสียงแข็งปัดยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ พร้อมให้ ป.ป.ช.พิสูจน์
วันนี้ (9 ก.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ได้เข้ายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาสั่งยุบ 6 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา และพรรคพลังชล และขอให้ตรวจสอบ 2 องค์กรอิสระ ประกอบด้วย ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรรมนูญ มาตรา 291 ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68
นายเรืองไกรอ้างว่า การยื่นคำร้องดังกล่าวเนื่องจากหลังจากการที่ได้ฟังการไต่สวนของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และศาลนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 13 ก.ค.นี้ เห็นว่ามีประเด็นเพิ่มเติมในกรณีที่ผู้ร้องมายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณานั้น ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองตามมาตรา 68 เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ชอบ เนื่องจากรัฐสภาได้ผ่านวาระหนึ่งและวาระสองไปแล้ว โดยเฉพาะวาระหนึ่งที่มีการตั้งกรรมาธิการตามสัดส่วนของพรรคการเมือง ประกอบไปด้วย 6 พรรคที่ปรากฏอยู่ข้างต้น แต่ผู้ร้องเองได้ยื่นมาเพียง 2 พรรคจึงมายื่นเพิ่มเติมในประเด็นนี้ เมื่อคำวินิจฉัยจะออกมาในทิศทางใดทั้ง 6 พรรคต้องรับผิดชอบร่วมด้วย รวมถึงองค์กรอิสระทั้ง 2 องค์ดังกล่าว เนื่องจากเข้าลักษณะเป็นบุคคลที่รับรู้เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสมาชิกรัฐสภาก็ตาม
ส่วนกรณีที่มีการเรียกร้องให้ตุลาการที่แคยร่วมเป็นกรรมาธิการยกกร่างรัฐธรรมนูญ 50 อย่างนายนุรักษ์ มาประณีต นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รวมถึงนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญที่มีมีคลิปออกมาเผยแพร่ตามอินเทอร์เน็ต ในการสนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถอนตัวออกจาการเป็นองค์คณะนั้น นายเรืองไกรกล่าวว่า กรณีการถอนตัวของ 3 ตุลาการนั้นเป็นสิทธิไม่ใช่องค์คณะตุลาการมาประชุมแล้วใช้ข้อห้ามไม่ให้ตุลาการทั้ง 3 คนถอนจากการไต่สวนและวินิจฉัย ซึ่งเชื่อว่าจะมีปัญหาตามมา
นายเรืองไกรยังกล่าวชี้แจงถึงกรณีที่สำนักข่าวอิศราออกมาระบุว่าตนยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นเท็จว่า ตนมีหลักฐานที่จะนำไปชี้แจงได้ และตนพร้อมจะเป็นตัวอย่างให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ โดยมั่นใจว่าสามารถชี้แจงได้ไม่มีปัญหา
