“พานทองแท้” เดือดถูกตราหน้าเป็น “อีแอบหน้าคอมพ์” โวจะท่องขันติไม่ตอบโต้หยาบคาย เล็งใช้ทฤษฎี “หมากัด ด่าเจ้าของหมา” ขู่หากไม่หยุดใช้โวหารหยาบๆ คายๆ ระวังแฟนเพจนับหมื่นเคืองเรียกคนที่อยู่เบื้องหลังเป็น “อีแอบหลังหมา” บ้างจะวุ่น เสนอให้บล็อกเฟซบุ๊กอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 3ก.ค. เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra ถึงกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้เรื่องนาซาขอใช้สนามบินอู่ตะเภาว่า เลือกหยิบบางประเด็นมาโจมตีรัฐบาล เนื่องจากได้ “ตั้งข้อสังเกต 4 ข้อ” แทนที่จะใช้คำว่า “ตั้งคำถาม 4 ข้อ” เพราะตนรู้ว่าตอบไม่ได้ เดี๋ยวจะพาลมาด่าพ่อล่อแม่ตนอีก และตนก็ไม่ได้ต้องการบีบบังคับให้ตอบ เพราะยิ่งตอบไม่ได้หรือยิ่งทำให้มันคลุมเครือเท่าไหร่ พี่น้องประชาชนก็จะยิ่งรู้ข้อเท็จจริงมากขึ้นว่าใครเล่นการเมืองโดยไม่เห็นแก่ประโยชน์บ้านเมือง
นอกจากประเด็นดังกล่าวข้างต้นแล้ว นายพานทองแท้ยังโพสต์ต่อว่า “เดี๋ยวนี้มีการใช้สำนวนโวหารประเภทหยาบๆ คายๆ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ครับ ล่าสุดมีการบัญญัติศัพท์ “อีแอบหน้าคอมพ์” แทนคนที่ใช้เฟซบุ๊ก คนใช้เฟซบุ๊กมีเป็นล้านคน แฟนเพจผมก็มีหลายหมื่นคน พูดแบบนี้ไม่สวยครับ
ผมและแฟนเพจของผมได้ตกลงกันไว้แล้วว่าผมจะไม่ตอบโต้แบบหยาบๆ คายๆ กับผู้ใด โดยผมจะใช้ทฤษฎี “หมากัด ด่าเจ้าของหมา” มาใช้แทนอย่างเคร่งครัด โดยทฤษฎีนี้อุปมาอุปมัยเหมือนกับมีใครแอบอยู่ข้างหลัง แล้วปล่อยสุนัขมากัดผมอยู่เรื่อยๆ ต่อให้ส่งมาอีกสัก 10 ตัวจะเป็นสุนัขตัวผู้หรือสุนัขตัวเมีย ก็กัดผมไม่เข้าหรอกครับ และผมก็จะไม่กัดตอบด้วย ผมก็อยู่หน้าจอคอมพ์ผม พูดคุยกับแฟนเพจของผมต่อไปนี่แหละ
ยังจำเหตุการณ์ที่มีคนเสนอให้บล็อกเฟซบุ๊กไม่ให้คนไทยทั้งประเทศใช้ได้มั้ยครับ ในที่สุดก็ต้องลนลานออกมาแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ นั่นคือตัวอย่างอิทธิพลของโซเชียลเน็ตเวิร์กครับ
ผมว่าเลิกเถอะครับโต้กันด้วยคำพวกนี้ ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ครับ ถ้าไม่เลิกก็ตามใจ เพราะผมแค่เป็นห่วงว่า เกิดคนไทยที่ใช้เฟซบุ๊กเขาเคืองขึ้นมา แล้วพร้อมใจกันตั้งฉายาให้ใครทีเขาคิดว่าแอบสั่งอยู่ข้างหลังว่า “อีแอบหลังหมา” บ้าง เดี๋ยวจะพานมาเสนอให้บล็อกเฟซบุ๊กทั้งประเทศอีก ผมว่ามันจะได้ไม่คุ้มเสียนะครับ”
