xs
xsm
sm
md
lg

“ศรีราชา” แจงไม่มีใครยื่นร้อง “กษิต” เอง แย้ม “ปู ว.5” ส่อประโยชน์ทับซ้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน (แฟ้มภาพ)
“ผู้ตรวจการแผ่นดิน” ปัดสองมาตรฐานไม่สอบ “กษิต” ชี้ไม่มีใครยื่นคำร้องให้สอบเอง ยันมีมาตรฐานเดียว ชี้หากมีกรณีคล้าย “อำมาตย์เต้น” ก็ต้องวินิจฉัยทำนองเดียวกัน ลั่นจะมาเหมาเป็นองค์กรปฏิปักษ์ไม่ถูกต้อง รับสอบ “ปู ว.5 โฟรซีซั่นส์” ยังต้องหาข้อเท็จจริงเพิ่ม เผย “เศรษฐา” ส่งคำแจงมาแล้ว แย้มเอี่ยวประโยชน์ทับซ้อน

วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายศรีราชา เจริญพานิช ผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีคนเสื้อแดงระบุว่าผู้ตรวจการแผ่นดินทำงานแบบสองมาตรฐาน เพราะไม่เคยตรวจสอบนายกษิต ภิรมย์ ขณะดำรงตำแหน่งเป็น รมว.ต่างประเทศ ที่ถูกข้อหาก่อการร้าย เช่นเดียวกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมว.เกษตรและสหกรณ์ว่า การตรวจสอบเรื่องจริยธรรมนั้นกฎหมายไม่ให้อำนาจผู้ตรวจหยิบยกขึ้นมาพิจารณาเอง ต้องมีผู้ร้อง ซึ่งในกรณีของนายกษิตไม่เคยมีการร้องมาให้ผู้ตรวจฯ ตรวจสอบ อาจเป็นเพราะขณะนั้นยังไม่มีใครรู้ว่าสามารถร้องเรื่องจริยธรรมให้ผู้ตรวจตรวจสอบได้ ต่างจากเวลานี้ที่แต่ละฝ่ายทราบสิทธิของตนเอง เรื่องจริยธรรม จึงกลายเป็นเรื่องใหม่ที่มาร้องกันจนเป็นแฟชั่น โดยที่ผู้ตรวจฯกำลังตรวจสอบอยู่มีประมาณ 20 เรื่อง ดังนั้น การทำงานของผู้ตรวจฯยืนยันว่ามีมาตรฐานเดียว ซึ่งหลังจากที่ผู้ตรวจฯได้มีมติเรื่องของนายณัฐวุฒิ ไปแล้วหากเกิดลักษณะเดียวกันอีก และมีการร้องให้ผู้ตรวจฯ ตรวจสอบผู้ตรวจก็ต้องวินิจฉัยไปในทำนองเดียวกัน โดยการวินิจฉัยไม่เคยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือแบ่งสีแบ่งฝ่าย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหลักฐาน ข้อเท็จจริง เพราะรู้ดีว่าถ้าพิจารณาด้วยความไม่เป็นกลาง ก็จะส่งผลถึงความน่าเชื่อถือขององค์กร

“ผู้ตรวจฯ ไม่ได้คิดที่จะไปท้าทายคนเสื้อแดง เพราะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบุคคลผู้ตรวจค่อนข้างระมัดระวังเต็มที่ที่จะไปพูดเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่การทำงานแน่นอนว่าเมื่อมีคำวินิจฉัยก็ต้องไปกระทบฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานข้อเท็จจริง ผู้ที่ไม่เห็นด้วยจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่ เขาอาจจะเชื่อในข้อมูลที่เขามีเราก็เคารพ โดยคำวินิจฉัยจะให้พอใจทุกฝ่ายไม่ได้เพราะมันอยู่กันคนละซีก ละฝ่าย แต่ทุกครั้งที่มีมติและแถลงไป สามารถอธิบายได้ ดังนั้นที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะมาเหมาว่าเราเป็นองค์กรที่เป็นปฏิปักษ์นั้นไม่ถูกต้อง” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายศรีราชายังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคำร้องนายกรัฐมนตรีใช้เวลาราชการไปปฏิบัติภารกิจลับที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ว่า จากการให้ข้อมูลของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาฯ พบว่า ข้อเท็จจริงที่ผู้ตรวจได้รับจากแต่ละฝ่ายยังไม่ตรงกัน ซึ่งอาจจะต้องมีการหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมถึงอาจต้องกลับไปดูสถานที่จริงที่โรงแรมอีกครั้ง ซึ่งในส่วนของนายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ ก็ได้ชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยเกรงว่าจะส่งผลต่อรูปคดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า การใช้เวลาราชการไปปฏิบัติภารกิจอื่นหากมีการฝากงานไว้สามารถทำได้หรือไม่ นายศรีราชากล่าวว่า ก็น่าจะทำได้แต่ต้องดูว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ และถ้างานในหน้าที่มีความสำคัญแล้วหนีไปทำงานอื่นมันก็ไม่ค่อยเหมาะ เมื่อถามต่อว่าจากข้อมูลดูแล้วเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ นายศรีราชากล่าว่า ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่ต้องรอดูข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งก่อนว่าจะไปในทิศทางดังกล่าวจริงหรือไม่ ซึ่งก็อาจจะต้องนำข้อเท็จจริงปัจจุบันมาประกอบการพิจารณาด้วย

เมื่อถามต่อว่า การที่ระบุว่าแต่ละฝ่ายให้ข้อมูลไม่ตรงกันจะมีข้อสรุปได้หรือไม่ นายศรีราชากล่าวว่า โดยหลักการพิจารณาแล้วอะไรที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนมันก็ต้องยกประโยชน์ให้แก่จำเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น