เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 จะเป็นเพราะเห็นแก่ตัว จน “หน้ามืด” ต้องด่วนลงมือเพื่อให้ตัวเองได้กำไรมากที่สุด ไม่สนใจว่าคนรอบข้าง หรือสังคมจะเป็นเช่นไร เมื่อได้โอกาสก็ต้องฉวยโอกาสเดินหน้าเต็มเหนี่ยว เหมือนกับการส่งสัญญาณ ให้ “บังเละ” พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง(นิรโทษฯ) เข้าสภา เนื่องจากมั่นใจว่า “ลูกสมุน” ที่มีอยู่เต็มสภาจะยกมือโหวตให้ผ่านฉลุยจะได้กลับบ้านอย่างเท่ สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร คงต้องคิดแบบนี้แหละ
00 มองอย่างอื่นไม่ได้เลยกับการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ดังกล่าว เพราะไม่ว่าจะเป็นคนที่เสนอกฎหมาย คือ พล.อ.สนธิ ที่ตามปกติมี ส.ส.พรรคมาตุภูมิไม่เกิน “สองหน่อ” เสียงไม่พอ แต่นี่ดันมีเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลลงชื่อเป็น “หางว่าว” แต่ที่น่าสังเกตก็คือคนลงชื่อจากพรรคชาติไทยพัฒนาของ “เฒ่าการเมือง” บรรหาร ศิลปอาชา ทั้งสิ้น ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาจากเนื้อหา หากพอมีสติปัญญาอยู่บ้างก็เข้าใจดีว่านี่คือการนิรโทษแบบ “เหมาเข่ง” ให้ทุกคนทั้งพวก 109 คน คดีอาญาสารพัดที่บอกว่าเกี่ยวข้องกับการเมือง ซึ่งครอบคลุมไปถึงคนที่ “ยิงอาร์พีจีถล่มวัดพระแก้ว” หรือแม้แต่ “ดา ตอร์ปิโด” ก็อาจพ้นคุกไปด้วย เพื่อให้ดูแนบเนียน แต่เป้าหมายปลายทางหลักก็คือให้ เหลี่ยมจัดพ้นโทษแล้วได้เงิน 46,000 ล้านบาทที่ถูกยึดไปคืนมา สาระหลักมีอยู่แค่นี้จริงๆ
00 สิ่งที่ชาวบ้านสะอิดสะเอียนก็คือนึกไม่ถึงว่าทำไมมันถึงได้ดูถูกความรู้สึกของชาวบ้าน โดยเฉพาะ พล.อ.สนธิ ที่ตอนนำกำลังทหารก่อรัฐประหาร อ้างข้อฉกรรจ์ 4-5 ข้อทั้งล้มเจ้า ทุจริต ใช้อำนาจหน้าที่มิชอบ แทรกแซงองค์กรอิสระ แบบนี้มันต้องประหารเจ็ดชั่วโคตร แต่แล้วจู่ๆไม่เอาแล้วบอกว่าเข้าใจผิด ต้องปรองดอง โธ่ไอ้เวร คิดว่าบ้านเมืองเป็นของพวกเอ็งคนเดียวหรือไง ที่คิดจะลากไปทางไหนก็ได้ ทุด !!
00 นี่แหละถือว่าเป็นการแหย่รังแตนให้บ้านเมือง “ลุกเป็นไฟ” อย่างแท้จริง แทนที่อยู่ดีไม่ว่าดี ไม่ว่า “น้องสาว” คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะบริหารบ้านเมืองห่วยแตกแค่ไหน ก็ยังพอดันทุรังไปได้เรื่อยๆ ด้วยข้ออ้างขอโอกาสตามกติกาประชาธิปไตยก็ยังพอกัดฟันอดทนกันได้ แต่เมื่อได้คืบเอาศอก เห็นแก่ตัวอย่างที่เห็น มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะต้องเจอแรงต้าน อย่างไม่คาดหมายแน่ แม้ว่าหลายฝ่ายจะมองว่านี่อาจเป็นการ “หยั่งเชิง” ก็ตาม แต่มันก็ไม่ต่างจากการ “เรียกแขก” แบบรวมการเฉพาะกิจสกรัมแม้ว และหากมองอีกมุมหนึ่งการแสดงอาการดังกล่าวออกมาเรื่อยๆมันก็ยิ่งทำให้โอกาสกลับบ้านอย่างเท่นั้นเลือนลางลงทุกที
00 เท่าที่เห็นก็มี พันธมิตรฯ ที่ไม่มีทางเลือกต้องออกมาขัดขวางแบบไม่ยอมถอยอีกครั้ง นัดรวมพลังวันที่ 30 พ.ค.ที่ลานพระบรมรูปฯจนกว่าจะถอนร่างอัปยศออกไป ซึ่งแน่นอนว่าการชุมนุมของพันธมิตรฯย่อมส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นหากให้ประเมินสถานการณ์ในตอนนี้เชื่อว่า แม้ว คงสั่งให้ถอยชั่วคราวแล้วให้เป็นวาระคาอยู่ในสภา เพื่อรอจังหวะดันเข้ามาอีกครั้งหลังจากร่าง รธน.เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเมื่อรื้อ ม.309 ที่เกี่ยวกับการรับรองอำนาจ-หน้าที่ของ คตส.สำเร็จ !!