“สวนดุสิตโพล” สำรวจความสุขความทุกข์ประชาชน พบ 61.86% ครอบครัวอบอุ่นทำมีสุข 43.03% ชี้ทะเลาะเบาะแว้งทำบ้านร้อน 47.16% ชูเกื้อกูลทำชุมชนมีสุข 55.60% ระบุเพื่อนบ้านเห็นแก่ตัวทำทุกข์ 71.43% รับเพื่อนร่วมงานมีน้ำใจทำสุข 61.25% เผยทีมขี้อิจฉาทำทุกข์ 41.83% เผยรอยยิ้มทำสังคมสุข 58.39% ยันแตกสามัคคีทำทุกข์ 40% แนะมองโลกในแง่ดีสร้างสุข 52.16% ปล่อยวางแก้ทุกข์
วันนี้ (27 พ.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,328 คน ถึงความสุข ความทุกข์ของคนไทยวันนี้ พบว่า ความสุขที่ได้รับจากครอบครัว 61.86% ความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่นที่คนในครอบครัวมีให้กัน เป็นห่วงเป็นใยเอื้ออาทรกัน 28.24% การได้อยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทำกิจกรรมร่วมกัน ทานข้าว ไปเที่ยว ทำบุญ ฯลฯ และ 9.90% มีหัวหน้าครอบครัวที่ดี ฐานะมั่นคง มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย ส่วนความทุกข์ ที่ได้รับจากครอบครัวนั้น 43.03% การทะเลาะเบาะแว้ง ความคิดเห็นของคนในครอบครัวไม่ตรงกัน ไม่เข้าใจกัน ไม่พูดคุยกัน 30.33% มีปัญหาเรื่องการเงิน ยังคงมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก คนในครอบครัวยังไม่สุขสบาย และ 26.64% ปัญหาในครอบครัว คนในครอบครัวไม่สบาย มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ลูกไม่ตั้งใจเรียน หนีเรียน
เมื่อถามถึงความสุขที่ได้รับจากเพื่อนบ้าน ชุมชน 47.16% การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ช่วยกันดูแลชุมชนให้น่าอยู่และปลอดภัย มีความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ 41.24% มีเพื่อนบ้านที่ดี มีน้ำใจ แบ่งปันกัน ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เมื่อไม่อยู่บ้าน และ 11.60% การพูดคุย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ส่วนความทุกข์ที่ได้รับจากเพื่อนบ้าน ชุมชน 55.60% ความเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ ส่งเสียงดังรบกวน ไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น 29.48% เจอเพื่อนบ้านไม่ดี ชอบใส่ร้าย นินทาว่ากล่าวให้เสียหาย และ 14.92% สภาพแวดล้อมในชุมชนไม่น่าอยู่ ไม่ปลอดภัย มีปัญหายาเสพติด บ่อนการพนัน โจรขโมยชุกชุม
เมื่อถามถึงความสุขที่ได้รับจากที่ทำงาน ที่เรียน 71.43% ความมีน้ำใจ การร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 16.71% มีเพื่อนที่ดี ได้พบปะสังสรรค์ พูดคุยกัน มีสังคมให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และ 11.86% ได้รับการยอมรับ คำชื่นชมจากผู้ใหญ่หรือเพื่อนร่วมงาน ประสบความสำเร็จ ส่วน ความทุกข์ ที่ได้รับจากที่ทำงาน ที่เรียนนั้น 61.25% ความไม่สามัคคี ทะเลาะเบาะแว้ง อิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่น ถูกนินทาว่าร้าย 21.78% งานหนัก เรียนหนัก ไม่มีเวลาให้กับตนเองและครอบครัว และ 16.97% ไม่ได้รับความยุติธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดนกลั่นแกล้ง
เมื่อถามถึงความสุขที่ได้รับจากภาพรวมของสังคมไทย 41.83% การมีรอยยิ้มให้กัน ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 35.95% ความรักใคร่สามัคคีของคนในสังคม ไม่ทะเลาะเบาะแว้งหรือแตกแยก และ 22.22% การเห็นคุณค่าของความเป็นไทย การรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยให้ดำรงอยู่ต่อไป ส่วน ความทุกข์ ที่ได้รับจากภาพรวมของสังคมไทย 58.39% ความแตกแยก ขาดความสามัคคี แบ่งฝักแบ่งฝ่าย การทะเลาะเบาะแว้ง ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา 21.92% ความเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ ต่างคนต่างเอาตัวรอด โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ค่าครองชีพสูง ของแพง ภัยต่างๆ ในสังคม และ 19.69% การทุจริต คอรัปชั่น โกงกิน ความไม่ซื่อสัตย์ของคนในสังคม
เมื่อถามถึงวิธีการสร้างความสุข ของประชาชน 40.00% การมองโลกในแง่ดี คิดบวก คิดดี ทำดี 31.60% รู้จักแบ่งเวลาให้กับตัวเอง ทำในสิ่งที่ชอบหรือที่อยากทำ เช่น ไปเที่ยว ทานข้าว พักผ่อนอยู่บ้าน 17.53% การทำบุญ ใส่บาตร นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และ 10.87% ต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมนั้นๆ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ส่วน วิธีแก้ความทุกข์ ของประชาชนนั้น 52.16% ทำใจยอมรับ ตั้งสติ อย่าคิดมาก รู้จักปล่อยวาง 26.23% พึ่งธรรมะ หันหน้าเข้าวัด นึกถึงคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ 16.36% ไม่อยู่คนเดียว หาคนที่สามารถพูดคุย ให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือได้ และ 5.25% รู้จักประมาณตน อยู่อย่างพอเพียง
วันนี้ (27 พ.ค.) สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,328 คน ถึงความสุข ความทุกข์ของคนไทยวันนี้ พบว่า ความสุขที่ได้รับจากครอบครัว 61.86% ความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่นที่คนในครอบครัวมีให้กัน เป็นห่วงเป็นใยเอื้ออาทรกัน 28.24% การได้อยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทำกิจกรรมร่วมกัน ทานข้าว ไปเที่ยว ทำบุญ ฯลฯ และ 9.90% มีหัวหน้าครอบครัวที่ดี ฐานะมั่นคง มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย ส่วนความทุกข์ ที่ได้รับจากครอบครัวนั้น 43.03% การทะเลาะเบาะแว้ง ความคิดเห็นของคนในครอบครัวไม่ตรงกัน ไม่เข้าใจกัน ไม่พูดคุยกัน 30.33% มีปัญหาเรื่องการเงิน ยังคงมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก คนในครอบครัวยังไม่สุขสบาย และ 26.64% ปัญหาในครอบครัว คนในครอบครัวไม่สบาย มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ลูกไม่ตั้งใจเรียน หนีเรียน
เมื่อถามถึงความสุขที่ได้รับจากเพื่อนบ้าน ชุมชน 47.16% การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ช่วยกันดูแลชุมชนให้น่าอยู่และปลอดภัย มีความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจ 41.24% มีเพื่อนบ้านที่ดี มีน้ำใจ แบ่งปันกัน ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เมื่อไม่อยู่บ้าน และ 11.60% การพูดคุย สนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ส่วนความทุกข์ที่ได้รับจากเพื่อนบ้าน ชุมชน 55.60% ความเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ ส่งเสียงดังรบกวน ไม่รู้จักเกรงอกเกรงใจ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น 29.48% เจอเพื่อนบ้านไม่ดี ชอบใส่ร้าย นินทาว่ากล่าวให้เสียหาย และ 14.92% สภาพแวดล้อมในชุมชนไม่น่าอยู่ ไม่ปลอดภัย มีปัญหายาเสพติด บ่อนการพนัน โจรขโมยชุกชุม
เมื่อถามถึงความสุขที่ได้รับจากที่ทำงาน ที่เรียน 71.43% ความมีน้ำใจ การร่วมแรงร่วมใจกันทำงาน การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 16.71% มีเพื่อนที่ดี ได้พบปะสังสรรค์ พูดคุยกัน มีสังคมให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และ 11.86% ได้รับการยอมรับ คำชื่นชมจากผู้ใหญ่หรือเพื่อนร่วมงาน ประสบความสำเร็จ ส่วน ความทุกข์ ที่ได้รับจากที่ทำงาน ที่เรียนนั้น 61.25% ความไม่สามัคคี ทะเลาะเบาะแว้ง อิจฉาริษยา ชิงดีชิงเด่น ถูกนินทาว่าร้าย 21.78% งานหนัก เรียนหนัก ไม่มีเวลาให้กับตนเองและครอบครัว และ 16.97% ไม่ได้รับความยุติธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบ โดนกลั่นแกล้ง
เมื่อถามถึงความสุขที่ได้รับจากภาพรวมของสังคมไทย 41.83% การมีรอยยิ้มให้กัน ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 35.95% ความรักใคร่สามัคคีของคนในสังคม ไม่ทะเลาะเบาะแว้งหรือแตกแยก และ 22.22% การเห็นคุณค่าของความเป็นไทย การรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยให้ดำรงอยู่ต่อไป ส่วน ความทุกข์ ที่ได้รับจากภาพรวมของสังคมไทย 58.39% ความแตกแยก ขาดความสามัคคี แบ่งฝักแบ่งฝ่าย การทะเลาะเบาะแว้ง ใช้ความรุนแรงแก้ปัญหา 21.92% ความเห็นแก่ตัว ไม่มีน้ำใจ ต่างคนต่างเอาตัวรอด โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ค่าครองชีพสูง ของแพง ภัยต่างๆ ในสังคม และ 19.69% การทุจริต คอรัปชั่น โกงกิน ความไม่ซื่อสัตย์ของคนในสังคม
เมื่อถามถึงวิธีการสร้างความสุข ของประชาชน 40.00% การมองโลกในแง่ดี คิดบวก คิดดี ทำดี 31.60% รู้จักแบ่งเวลาให้กับตัวเอง ทำในสิ่งที่ชอบหรือที่อยากทำ เช่น ไปเที่ยว ทานข้าว พักผ่อนอยู่บ้าน 17.53% การทำบุญ ใส่บาตร นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรหรือผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว และ 10.87% ต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมนั้นๆ ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ส่วน วิธีแก้ความทุกข์ ของประชาชนนั้น 52.16% ทำใจยอมรับ ตั้งสติ อย่าคิดมาก รู้จักปล่อยวาง 26.23% พึ่งธรรมะ หันหน้าเข้าวัด นึกถึงคำสั่งสอนของผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ 16.36% ไม่อยู่คนเดียว หาคนที่สามารถพูดคุย ให้คำปรึกษาหรือช่วยเหลือได้ และ 5.25% รู้จักประมาณตน อยู่อย่างพอเพียง