ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินเตือนประธานสภา พิจารณาให้รอบคอบก่อนเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสภาฯ โดยเฉพาะ มาตรา 6 ที่ให้ยกเลิกคำตัดสินของศาล รธน.กรณียุบพรรค และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งทำไม่ได้ เหตุขัดต่อการวินิจฉัยของศาล รธน.ไม่มีกฎหมายใดมาลบล้างได้ ขณะที่มาตรา 3 ส่อเป็นการเลือกปฏิบัติ
วันที่ 26 พ.ค. นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.สนธิ บัญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ เสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ..... เป็นญัตติเร่งด่วนเพื่อให้ประธานสภาพิจารณาว่า กรณีมาตรา 6 ในร่างดังกล่าวที่ให้ยกเลิกคำวินิจฉัยเรื่องยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนั้นโดยหลักการคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งผูกพันกับทุกองค์กรแล้ว จึงไม่มีกฎหมายอื่นใดจะมาลบล้างคำวินิจฉัยนี้ได้
เพราะฉะนั้น เมื่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมเป็นที่สุดแล้ว การที่จะดูว่าการออก พ.ร.บ.ดังกล่าว ขัดกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมหรือไม่ ประธานสภาในฐานะเป็นผู้รับร่างดังกล่าวจะต้องตรวจสอบพิจารณาอย่างรอบคอบระมัดระวัง เพราะเรื่องที่เสนอเข้าไปนั้น มันมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ด้วย ซึ่งอาจขัดกับพระราชบัญญัติดังกล่าว อีกทั้งสังคมได้มีการทักท้วงในประเด็นนี้แล้ว ประธานสภาจึงควรนำมาประกอบการพิจารณาด้วย เพราะการตัดสินผิดเรื่องเดียวอาจนำมาสู่ปัญหาหลายอย่าง ซึ่งเตือนด้วยความเป็นห่วง
ทั้งนี้ ในมาตรา 3 ที่ระบุว่าให้บรรดาการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกตั้งแต่ปี 48-54 หากมีการกระทำใดที่เป็นความผิดตามกฎหมายให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไปและให้ผู้ที่กระทำนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดโดยสิ้นเชิง แล้วคนที่เกิดเหตุกรณีเดียวกันนี้ก่อนหน้านั้นเขาจะรู้สึกอย่างไร เพราะกฎหมายการล้างมลทิน ในหลักการมันอาจจะไม่มีข้อกำหนดเรื่องระยะเวลาก่อนการบังคับใช้ จึงไม่รู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติต่อคนเฉพาะกลุ่มหรือไม่ เรื่องเหล่านี้เราจะนำเสนอต่อคณะที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดินอีกครั้ง