“กิตติรัตน์” ชี้ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยรัฐเป็นหน้าที่ปกติ ยันงบบางรายใช้น้อยแต่มีผลงานมากก็ทำได้ ชูงบปี 56 ทำเศรษฐกิจก้าวหน้าได้ ด้าน “เฉลิม” ชม “อภิสิทธิ์” อภิปรายมีหลัก ยันเอาหนี้กองทุนฟื้นฟูให้แบงก์ชาติทำรัฐไม่ต้องชำระเสียดอกเบี้ย ชี้มาถูกทางแล้ว บอกถกงบราวกับซักฟอก โวงบปราบค้ามนุษย์รวม 400 ล้าน สับจ้อของแพงคนละเรื่อง ไล่ไปยื่นไม่ไว้วางใจเอา จ่อไปเชียงรายล่า ผกก.ไทรงาม
วันนี้ (22 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านวิจารณ์รัฐบาลจัดงบคลุมเครือว่า ตนเองไม่ใช่นักการเมือง หากแสดงความเห็นอาจจะไประคายใจใคร แต่พอจะเข้าใจฝ่ายค้านต้องไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลทุกเรื่อง ซึ่งความจริงหลายเรื่องได้อธิบายไปแล้วตอนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลทำขณะนี้คือทำสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ฉะนั้น ฝ่ายค้านเคยไม่เห็นด้วยอย่างไรคงไม่เห็นด้วยต่อไป หน้าที่ของรัฐบาลคือทำงาน และตนได้ชี้แจงในงบบางรายการที่ฝ่ายค้านบอกว่ารัฐบาลจัดให้น้อยเพราะไม่เห็นความสำคัญนั้น จริงๆ งบบางรายการถ้าใช้ให้มีประสิทธิภาพโดยใช้น้อยลงและมีผลงานมากขึ้นก็ทำได้ และทุนหมุนเวียนบางทุนมีเงินกองอยู่พอสมควรแล้ว และในอดีตอาจไม่ถูกบริหารจัดการเราก็เติมเงินให้บ้างแล้วผลักดันให้ทำงานต่อไป และไปเพิ่มงบในปีถัดไปก็ถืออยู่ในแผน ฉะนั้นมั่นใจว่าเป็นการจัดงบที่ดีและสามารถที่จะทำให้เศรษฐกิจมีความก้าวหน้าได้
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 ว่าเป็นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะผู้นำฝ่ายค้านที่อภิปรายมีหลักมีเกณฑ์ เป็นการอภิปรายงบประมาณแต่เน้นเรื่องรายรับ-รายจ่าย งบลงทุน และรายจ่ายประจำ ซึ่งรัฐบาลก็จัดงบประมาณได้ดี ขาดดุลน้อยกว่าปี 55 จำนวน 1 แสนล้านบาท เห็นได้ชัดว่าการที่เอาหนี้กองทุนฟื้นฟู 1.14 ล้านล้านบาทไปให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้เราต้องไม่ต้องชำระหนี้คืนให้เสียดอกเบี้ย จึงมีเงินเหลือประมาณ 1.2 แสนล้านบาท และจากนี้ต่อไปงบลงทุนจะเพิ่มขึ้น ถือว่ารัฐบาลทำมาถูกทางแล้ว นอกจากนี้ สมาชิกคนอื่นๆ บางรายก็อภิปรายลงลึกดีเหมือนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่ก็มีการโอนอ่อนผ่อนปรน ในภาพรวมถือว่าออกมาดี
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ส่วนเรื่องงบประมาณป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ที่มีสื่อรายงานไปว่ามีเพียง 20-30 ล้านบาทนั้น ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ตนเป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ มีทั้งหมดกว่า 400 ล้านบาท นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมามากกว่าปี 55 จำนวน 70 กว่าเปอร์เซ็นต์ คนที่เขาอภิปรายเรื่องนี้อาจจะไม่ได้ดูในรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายค้านพยายามอภิปรายให้เห็นถึงการล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาข้าวของแพง ร.ต.อ.เฉลิมปฏิเสธว่าเป็นคนละเรื่องกัน ตนอภิปรายงบประมาณมาโดยตลอด ต้องดูว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2556 เล่มใหญ่นี้มีทั้งหมด 34 มาตรา งบประมาณรายจ่ายโดยสังเขปได้บอกรายละเอียดไว้หมด และก็วิเคราะห์งบประมาณ ต้องมาดูว่ารัฐบาลได้จัดงบประมาณเหมือนนโยบายที่แถลงไว้เมื่อครั้งแถลงนโยบายต่อรัฐสภาหรือไม่ นั่นคือการอภิปรายงบประมาณ ส่วนที่บอกว่าของแพงแก้ปัญหาล้มเหลว ฝ่ายค้านก็ไปยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทั่วไป แต่ถ้าบอกว่าไม่ไว้วางใจปัญหาทุจริตต้องไปร้องยื่นถอดถอนต่อประธานวุฒิสภาพร้อมหลักฐานอันควรเชื่อ
รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความคืบหน้าคดี พ.ต.อ.พิจิตร กรมประสิทธิ์ ผกก.สภ.ไทรงาม ผู้ต้องหาคดีปล้นรถขนเงินธนาคารกสิกรไทยที่ยังหลบหนีคดีอยู่ด้วยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่ ซึ่งในวันที่ 24 พ.ค.ตนจะไป จ.เชียงราย อาจจะรู้อะไรเพิ่มเติมบ้าง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่มีใครรายงานต่อตน เพียงแต่ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวส่วนตัวมา ขอยืนยันว่าไม่มีใครปกป้อง และที่บอกว่าไปอยู่บ้านนักการเมือง หากหลบหนีไปอยู่จริงก็ต้องมีการไปตรวจค้นแล้วจับกุม