ที่ปรึกษา กม.แม้ว ร้อนใจแทนนาย ออกโรงโต้โฆษก ปชป.ป้ายสี “ทักษิณ” หลอกใช้คนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือทางการเมือง ตะแบงอ้างเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์เพื่อทำให้ประเทศมีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โวยเลิกโยงสถาบันมาทำลายทางการเมือง
วันนี้ (21 พ.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าการโฟนอินในวันที่ 19 พ.ค. 55 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ แสดงให้เห็นตัวตนว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้คนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือทางการเมืองนั้น ตนไม่แปลกใจในความพยายามของประชาธิปัตย์ที่จะเสี้ยมคนเสื้อแดงกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่พยายามทำแต่ไร้ผลมาตลอด คนเสื้อแดงและ พ.ต.ท.ทักษิณ คือเหยื่อร่วมของการรัฐประหารและการละเมิดหลักนิติธรรมในประเทศไทย และคนเสื้อแดงหลายพันต้องบาดเจ็บและร่วมร้อยล้มตาย เกิดขึ้นสมัยพรรคประชาธิปัตย์บริหารประเทศไม่ใช่หรือ
นายนพดลกล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่เคยมองประชาชน โดยเฉพาะคนเสื้อแดงเป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่ถือว่าเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์ที่มีเป้าหมายเดียวกัน คือ บ้านเมืองที่มีประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และประเทศที่มีหลักนิติธรรม และความเท่าเทียม และ พ.ต.ท.ทักษิณยังคงร่วมเดินทางเพื่อแสวงหาสิ่งเหล่านี้ร่วมกับประชาชนต่อไป การที่รัฐบาลผลักดันการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ประเทศมีประชาธิปไตยที่แท้จริง แม้ประชาธิปัตย์จะขัดขวางทุกวิถีทาง แต่ก็ขวางความต้องการของประชาชนไม่ได้
ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณหลอกคนเสื้อแดงว่าจะเอาผู้กระทำผิดสังหารประชาชนในวันสลายการชุมนุมมาลงโทษนั้น นายนพดลกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรมปกติ ที่ผู้กระทำความผิดต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย และประเทศจะอยู่ได้ถ้าไม่มีใครมีอภิสิทธิ์ การทำให้ประชาชนล้มตายและบาดเจ็บมากมายขนาดนั้น เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ และบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และถ้าผิดต้องถูกลงโทษ ตนไม่เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณไปหลอกคนเสื้อแดงตรงไหน
ส่วนประเด็นเรื่องสถาบันที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และผู้สนับสนับสนุนจาบจ้วงสถาบันนั้น นายนพดลกล่าวว่า ตนรู้สึกเหนื่อยใจกับความพยายามเอาประเด็นสถาบันมาทำลายกันทางการเมือง เพราะสถาบันอยู่เหนือการเมือง และคดีความที่มีการกล่าวหาว่าหมิ่นสถาบันหรือผังล้มเจ้า ดีเอสไอก็สั่งไม่ฟ้องเพราะไร้หลักฐานไปแล้ว จึงขอเรียกร้องประชาธิปัตย์ให้ยุติการใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นเพื่อประโยชน์การเมืองของตน โดยเฉพาะในเรื่องสถาบัน
