“ชวนนท์” เย้ย “ปู” สั่ง 6 รมต.ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า แค่งานอีเวนต์กลบความล้มเหลว ขำกลิ้ง “นลินี” จัดฉากตรวจราคาชุดนักเรียนที่ร้านขายส่ง เหน็บ “ณัฐวุฒิ” ใช้งานถนัดสรรหาคำพูดอธิบายที่มาของแพงสูตรเดียวกับนายกฯ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงตั้งข้อสังเกตการลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าของรัฐมนตรีทั้ง 6 คนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เป็นเพียงงานอีเวนต์ที่ทำให้รัฐมนตรีบางคนไม่เคยมีหน้าตาโผล่ตามสื่อ ได้มีโอกาสให้ชาวบ้านได้จำหน้าไว้ว่ามีส่วนในการสร้างความล้มเหลวให้แก่ระบบเศรษฐกิจของชาติ สร้างภาวะแพงทั้งแผ่นดินโดนปรับออกจาก ครม.เท่านั้นเอง
นายชวนนท์ได้ตั้งข้อสังเกต 5 ข้อ ดังนี้ 1. เป็นการสร้างภาพใช้การตลาดนำการเมือง บิดเบือนข้อเท็จจริงกลบความล้มเหลว เพื่อให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาราคาสินค้า และต้องการชิงพื้นที่ข่าวในสื่อมวลชนเท่านั้น 2. เลี่ยงไม่ไปตลาดทั่วไป เพราะกลัวชี้แจงไม่ได้หากเจอของแพง โดยเลือกลงพื้นที่ที่เป็นตลาดขายส่ง โดย รมว.พาณิชย์ได้เห็นสินค้าแพงหลายอย่าง แต่ไม่มีแนวคิดแก้ไขปัญหาอย่างไร และที่น่าขำคือ นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางไปที่ร้านขายส่ง จึงอยากจะถามนางนลินีว่าเวลาซื้อชุดนักเรียนให้ลูกนั้นมีใครเขาซื้อกันเป็นโหลอย่างในครั้งเดียวหรือไม่
3. กรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ลงพื้นที่ปลูกผักที่ จ.ราชบุรีนั้น ทำให้เห็นถึงงานถนัดของนายณัฐวุฒิ คือ การสรรหาคำพูดมาอธิบายหาเหตุผลมาสะกดจิตประชาชน แต่หาสาระไม่ได้ ใช้สูตรเดียวกับนายกรัฐมนตรี คือโทษดินฟ้าอากาศ และรอให้ฝนมา แสดงว่าสภาพอากาศของประเทศไทย มีความสำคัญกว่าการมีรัฐบาลคุณภาพอย่างชุดปัจจุบันเสียอีก 4. เรื่องไข่ไก่ ถือว่ารัฐบาลนี้ได้อานิสงส์จากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ให้มีการเปิดเสรีการนำเข้าพันธุ์ไก่ไข่ ทำให้ล้างระบบผูกขาดได้
5. เรื่องน้ำมันปาล์ม รัฐบาลกลับไม่สามารถบริหารให้มีปริมาณเพียงพอและราคาที่เหมาะสมได้ กลับต้องไปสมคบคิดกับภาคเอกชนในการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบอีกถึง 4 หมื่นตันมาทำลายราคาขายภายในประเทศ กดราคาของพี่น้องเกษตรกร ถือเป็นการจงใจทำร้ายประชาชน และที่กล่าวอ้างว่าน้ำมันปาล์มดิบ 1 หมื่นตัน แรกที่มีการนำเข้ามาแล้วนั้น มีต้นทุนเพียง 31 บาทต่อ กก. ทั้งๆ ที่ราคาตลาดโลกอยู่ที่ 36 บาทนั้น อยากจะถามว่าได้เอาเงินภาษีประชาชนไปอุดหนุนให้กับบริษัทเอกชนได้กำไรไปฟรีๆ ใช่หรือไม่ เพราะรัฐบาลชุดนี้มีความถนัดในการสร้างกำไรให้แก่พ่อค้าเอกชนคนรวย และถนัดในการสร้างหนี้ กดขี่ประชาชนคนยากไร้หาเช้ากินค่ำ