มท.1 ยันภัยแล้งปีนี้ขาดน้ำแค่ภาคเกษตรกรรม โยน 2 กระทรวงตามแก้ สั่งปลัดฯ ดูหลักเกณฑ์พื้นที่ภัยพิบัติ ยันยังไม่มีการเบิกจ่ายงบฯ - ขึ้นเชียงใหม่หาเสียงช่วยลูกพรรคสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมร่วม “ยิ่งลักษณ์” พรุ่งนี้ ยันตั๋วบินซื้อเอง ปัดคะแนน พท.ตก แนะอย่าเอาผลเลือกตั้งท้องถิ่นโยง ชี้คนละแนว
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นตัวแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้อนุสาวรีย์ศาสตราจารย์ปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษ เนื่องในวันปรีดี ประจำปี 2555 ก่อนให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นหลายจังหวัดจนมีตัวเลขจังหวัดประสบภัยค่อนข้างสับสนว่า ภัยแล้งจริงๆ ไม่ได้ขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ แต่เป็นขาดแคลนน้ำในภาคการเกษตรเท่านั้น ซึ่งทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมก็ได้ร่วมแก้ไขไปตามสถานการณ์ ในส่วนกระทรวงมหาดไทยได้ติดตามเรื่องน้ำดื่มน้ำใช้เพื่อไม่ให้มีปัญหา และภัยแล้งที่ประกาศไปเพื่อให้ประชาชนแต่ละจังหวัดได้อุ่นใจว่าเป็นการประกาศเพื่อการช่วยเหลือ ซึ่งการประกาศพื้นที่ภัยแล้งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีกำชับที่ต้องมีหลักเกณฑ์ จึงได้สั่งการไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทยดูแลเรื่องนี้แล้ว นอกจากนี้ การเบิกจ่ายเงินงบประมาณที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาภัยแล้งแต่ละจังหวัดต้องรับผิดชอบ แต่ในส่วนงบประมาณภัยแล้งขณะนี้ยังไม่มีการเบิกจ่าย ทั้งนี้ หากพบข้อมูลความไม่ชอบมาพากลก็สามารถแจ้งมาได้ที่กระทรวงมหาดไทย
หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ว่า ในวันพรุ่งนี้จะเดินทางร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเดินทางไปช่วยหาเสียงกับนายเกษม นิมมลรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคเพื่อไทย ด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ได้ไปในเวลาราชการ ไม่ใช้ทรัพยากรราชการ ตั๋วเครื่องบินก็ซื้อเอง รถที่ใช้ก็เป็นรถเอกชน
เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนที่จะชนะเลือกตั้ง นายยงยุทธกล่าวว่า ตนเคารพในเสียงของประชาชน มั่นใจในการลงคะแนนของประชาชนว่าจะต้องมีการตัดสินใจที่ดีและถูกต้อง
เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยตกลง ทางพรรคจะมีกลยุทธ์อะไรออกมาหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่จริง คะแนนนิยมพรรคยังไม่ตก อย่านำผลการเลือกตั้งท้องถิ่นเข้ามาตัดสินกับส่วนกลาง ยกตัวอย่างเช่น การเลือกตั้งท้องถิ่นหลายจังหวัดทางภาคใต้กลุ่มที่ได้รับการเลือกตั้งเป็นคนละกลุ่มกับพรรคการเมืองที่ชาวภาคใต้นิยม เรื่องนี้ต้องวิเคราะห์วิจารณ์ด้วยความเป็นธรรม ตรงไปตรงมา เพื่อสามารถเห็นภาพได้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งส่วนกลางกับท้องถิ่นคนละแนวกัน