รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐโปแลนด์ เจรจา “ยุทธศักดิ์” เพื่อขอเปิดตลาดค้าอาวุธกับไทยและขอเชิญตัวแทนกองทัพไปดูการแสดงศัยกภาพ การันตีได้ไลเซนส์จากสหรัฐอเมริกาให้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์
วันนี้ (11 พ.ค.) H.E. Mr. Radoslaw Sikorski รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐโปแลนด์และคณะ เข้าพบ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการเข้าพบ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า รมว.ต่างประเทศโปแลนด์คนนี้เป็นอดีต รมว.กลาโหม โดยได้มาหารือเรื่องการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ เนื่องจากโปแลนด์ต้องการเปิดประตูทางด้านนี้ให้ทางกองทัพของไทยได้เห็นศักยภาพยุทโธปกรณ์ของโปแลนด์ ซึ่งขณะนี้โปแลนด์เองเป็นผู้ผลิตอาวุธ และได้รับไลเซนส์จากสหรัฐอเมริกาให้ผลิตอาวุธยุโธปกรณ์ในนามของสหรัฐฯ ด้วย เช่น เฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์ก ขณะที่อาวุธอื่นๆ ของโปแลนด์ก็ถือว่าอยู่ในคุณภาพที่ดี และมีราคาถูกกว่าของประเทศอื่นด้วย นอกจากนี้ ทางโปแลนด์ยังอยากจะเชิญ รมว.กลาโหม และกองทัพของไทยไปดูการแสดงศักยภาพที่ประเทศของเขา
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเปิดกว้างในการพิจารณาอาวุธยุทโธปกรณ์ของประเทศต่างๆ อยู่แล้ว เช่น เรื่องระบบเรดาร์ ทางกองทัพเรือเองก็ดูของทางด้านยุโรป ซึ่งหากโปแลนด์เสนอมาเราก็รับทราบและพร้อมจะพิจารณา หากมีสิ่งที่ทางกองทัพของไทยสนใจ โดยทราบมาว่าทางโปแลนด์มีทั้งเรื่องเรดาร์ และอาวุธ อีกทั้งที่ผ่านมากองทัพของไทยยังไม่เคยใช้อาวุธของโปแลนด์เลย เนื่องจากในอดีตโปแลนด์เป็นประเทศในสมาชิกเครือข่ายสังคมนิยม จึงไม่มีการติดต่อกัน แต่ปัจจุบันได้เปิดประเทศแล้วเขาจึงต้องการมาแนะนำตัวกับเรา นอกจากนี้ ในเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ (11 พ.ค.) คณะของ รมว.ต่างประเทศโปแลนด์จะเดินทางไปพบกับทางฝ่ายเศรษฐกิจของไทยเพื่อหารือเรื่องการลงทุน และจะพบปะกับกระทรวงการต่างประเทศของไทยต่อไป
รองนายกฯ กล่าวว่า หลังจากนี้หากไทยต้องการพูดคุยกับโปแลนด์ในรูปแบบระหว่างรัฐ คิดว่าในการประชุมเอเชีย-ยุโรป หรืออาเซม ที่เมืองเวียงจันท์ ประเทศลาวในเดือน พ.ย. ทางโปแลนด์ก็สามารถจะพบกับนายกรัฐมนตรีของไทยที่เมืองเวียงจันทน์ได้ ซึ่งจะพบกันแบบทวิภาคี หรือจะแวะมาเป็นแขกของนายกฯที่กรุงเทพฯ ก็ได้ ขณะเดียวกัน หากทางโปแลนด์เชิญให้เราไปดูงานที่ประเทศ หรือต้องไปประชุม ดูงานที่ยุโรป ก็อาจจะถือโอกาสนั้นแวะไปโปแลนด์ก็ได้ นอกจากนี้ ในตอนท้ายตนยังได้อวยพรเรื่องการแข่งขันฟุตบอลยุโรปที่จะถึง โดยขอให้โปแลนด์ประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพร่วมกับประเทศยูเครน ซึ่งโปแลนด์เองก็จะพยายามเร่งการก่อสร้างสนามฟุตบอลให้แล้วเสร็จภายในเดือน ส.ค.นี้