โฆษกประจำตัว “มาร์ค” คนใหม่ ห่วง ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้อง “ไอ้ตู่” จ้อหมิ่นสถาบัน ส่อมีอำนาจแทรกทำ “ลมเปลี่ยนทิศ ธาริตเปลี่ยนสี” เตือนก่อเงื่อนไขชุมนุมกลางปีหน้า จวกคดียิงหัวคะแนนหายจ้อย สับพวกนำ “ศพอากง” ปลุกปั่น แนะแดงถามสาเหตุตายจากรัฐ ชี้อย่านำมาเป็นต้นตอแก้ ม.112
วันนี้ (10 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ โฆษกประจำตัว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งไม่ฟ้อง นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คดีหมิ่นสถาบันฯ ว่า มีความเป็นห่วง จะมีอำนาจเข้ามาแทรกแซง ซึ่งนายจตุพร ได้พูดจริง กระทำความผิดชัดเจน โดยมีมูลเหตุจูงใจในการกระทำ การที่นายธาริต สั่งไม่ฟ้อง คงอาจจะใช้ถ้อยคำที่ว่า ลมเปลี่ยนทิศ ธาริตเปลี่ยนสี
“เห็นชัดเจนว่าเมื่ออำนาจเปลี่ยนทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง ผมเห็นว่านายจตุพร ต้องถูกตรวจสอบ และนายธาริต ต้องชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งตรงนี้อาจเป็นเงื่อนไขทำให้เกิดการชุมนุมไม่เกินกลางปีหน้า ทั้งนี้การทำหน้าที่เหมือนตำรวจที่สั่งฟ้องคดี แต่เมื่อไม่ฟ้องก็อาจมีผลต่อรูปคดี เหมือนกรณีคดีหัวคะแนนของตนที่ถูกยิง คดีกลับไม่มีความคืบหน้าและดำเนินการใดๆ ผมเชื่อว่าไม่นานคดีนี้ก็จะเงียบหายไป” นายแทนคุณกล่าว
นายแทนคุณกล่าวถึงการเสียชีวิตของนายอำพล ตั้งนพกุล หรือ อากง นักโทษคดีหมิ่นสถาบันฯ ว่า การเสียชีวิตของอากงทำให้ทุกฝ่ายสะเทือนใจ แต่กลับมีการนำการเสียชีวิตของอากงมาใช้เพื่อให้เกิดการปลุกปั่นเกลียดชังให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งอยากให้คนเสื้อแดงและประชาชนตั้งคำถามกับรัฐบาล ว่าการเสียชีวิตเกิดจากการปล่อยปละละเลยหรือไม่ หรือเกิดจากความหละหลวมของเจ้าหน้าที่ โดยจะต้องมีการตรวจสอบ ไม่อยากให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว นอกจากนี้ หากมีการเคลื่อนไหว เรื่องนี้ควรให้อยู่ในความเหมาะสม อีกทั้งไม่ใช่พอมีใครเสียชีวิตแล้วมาโทษ ป.วิ.อาญามาตรา 112 โดยไม่อยากให้นำกรณีนี้มาเป็นต้นเหตุของการแก้ไข ป.วิ.อาญามาตรา 112