“สุกำพล” ยึดคำสั่งศาล เมิน “นะคะมวย” เตรียมแถลงแก้ตัว

“สุกำพล” ไม่สน “นะคะมวย” แถลงโต้ไทย ชี้แค่ขู่ไปขู่มาเท่านั้น เชื่อศาลไทยมีข้อมูลถึงออกหมายจับ ด้านโฆษก มทภ.3 เผยชายแดนไทย-พม่า ปชช.ยังเข้า-ออกได้ตามปกติ พร้อมคุมเข้มความเรียบร้อย เชื่อไม่บานปลายกลายเป็นปัญหาระหว่างชายแดน

วันที่ 8 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการออกหมายจับ พล.ต.นะคะมวย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพกะเหรี่ยงโกะทูบลอ (เคเคโอ) ในข้อหาพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ จนมีผลกระทบบริเวณชายแดนไทย-พม่าว่า พล.ต.นะคะมวย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพกะเหรี่ยงโกะทูบลอ (เคเอโอ) ไม่มีอะไรหรอกเพียงแต่ขู่ไปขู่มาเท่านั้น ซึ่งโดนหมายจับจากศาลไทยตั้งแต่ปี 2546 ส่วนที่ พล.ต.นะคะมวยออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้เตรียมแถลงจุดยืนโต้ตอบหมายศาลจากไทยนั้น เราก็อย่าไปยุ่งกับเขาเพราะศาลไทยได้ออกหมายจับไปแล้ว หากไม่มีข้อมูลศาลไทยจะออกหมายจับได้อย่างไร ซึ่งตามกฎหมายเราต้องทำตามศาล อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทหารเราคงยังไม่เกี่ยวข้องเพียงแต่ทำหน้าที่ดูแลความสงบบริเวณชายแดน จ.ตาก เท่านั้น คงต้องให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ

ขณะที่ พ.อ.เทิดศักดิ์ งามสนอง โฆษกแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เตรียมบินไปไปประเทศพม่า เพื่อเจรจาเรื่อง พล.ต.นะคะมวย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพกะเหรี่ยงโกะทูบลอ (เคเอโอ) มาดำเนินคดียาเสพติดในประเทศไทยว่า ในส่วนของทางกองทัพได้ดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่อย่างเข้มงวดและเฝ้าระวังหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็พร้อมปฏิบัติได้ทันที แต่ทั้งนี้ไม่ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

สำหรับสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่าในขณะนี้ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และดีขึ้นตามลำดับ ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนสามารถเดินทางเข้า-ออกได้ตามปกติ เพียงแต่ทางกองทัพได้เข้มงวดตรวจสอบการเข้า-ออกมากขึ้น โดยพล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 ได้กำชับหน่วยงานในพื้นที่ตรวจสอบ เฝ้าระวัง และแจ้งเตือนประชาชนว่าหากไม่มีความจำเป็นก็ไม่ควรเดินทางมาบริเวณดังกล่าว

ส่วนที่ พล.ต.นะคะมวย เตรียมแถลงจุดยืนต่อการออกหมายจับของไทยในวันที่ 10 พ.ค.นั้นขณะนี้มีเพียงแต่ข่าวออกมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่ลุกลามกลายเป็นปัญหาระหว่างชายแดนไทย-พม่า เนื่องจากเป็นปัญหาในลักษณะตัวบุคคลมากกว่า ไม่เกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านโดยรวม นอกจากนี้ ในส่วนของสถานการณ์ลักลอบนำเข้ายาเสพติดบริเวณชายแดนไทย-พม่านั้น หลังปี 51 เป็นต้นมาพบว่าการลักลอบนำเข้ายาเสพติดบริเวณชายแดนด้าน จ.ตากนั้นมีค่อนข้างน้อยมาก พบเฉพาะผู้ที่ลักลอบนำเข้ารายเล็กๆ ไม่ใช่รายใหญ่เหมือนกับทางด้านเหนือตอนบนของไทย