ปธ.คณะอนุ กก.ฝ่ายจัดส่งสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สั่งเคลียร์ของบริจาค ให้วัด-มูลนิธิ ขีดเส้น 3 วัน แจง ได้มาหลังน้ำลด
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรม-การฝ่ายจัดหาและจัดส่งสิ่งของอุปโภคบริโภคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แถลงถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาระบุถึงการที่สภาผู้แทนราษฎรไม่นำสิ่งของที่ได้รับบริจาคไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และเก็บไว้บริเวณสโมสรรัฐสภาว่า ในส่วนของบริจาคที่คณะอนุกรรมการรับผิดชอบยังเหลือเพียงน้ำตาลทราย จำนวน 296 กระสอบ กระสอบละ 50 กิโลกรัม ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการเซ็นขออนุมัติแจกจ่ายตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค. 55 โดยให้แจกจ่ายพื้นที่ประสบภัย 12 จังหวัด จังหวัดละ24 กระสอบ ซึ่งบางส่วนได้มีการแจกจ่ายไปแล้วในบางพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าปัญหาน่าจะเกิดจากคนเก็บของเข้าใจผิดคิดว่าน้ำตาลทรายจะเป็นสิ่งของชุดเดียวกับที่จะเอาไปบริจาคร่วมกับโครงการของนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่จะนำไปบริจารให้แก่วัด และมูลนิธิต่างๆ
ส่วนรายการสิ่งของอื่นๆ 6รายการได้แก่ เสื้อชูชีพ น้ำดื่ม ส้วมกระดาษ ข้าวสาร น้ำปลา เรือยนต์ เครื่องยนต์ เป็นโครงการที่นายสุวิจักขณ์ รับผิดชอบ ที่เป็นของรับบริจาคช่วยน้ำท่วม ที่ได้รับอนุญาตจากนายสมศักดิ์
เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1ซึ่งร่วมกับสำนักสงฆ์เขมาภิรโต จ.ราชบุรี ดำเนินการจัดตั้งโรงครัว บริเวณรัฐสภา เพื่อจัดทำอาหารกล่อง จำนวน 20วัน วันละ 2,000 กล่อง ให้กับผู้ประสบอุทกภัย ส่วนของบริจาคที่พบนั้น นายสุวิจักขณ์ ได้แจ้งเป็นของที่ได้รับมอบมาหลังอุทกภัยคลี่คลายลงแล้ว ซึ่งนายเจริญเห็นควรให้นำสิ่งของที่บริจาคมาไปบริจาคให้กับวัด และมูลนิธิต่างๆ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ มีมติให้ดำเนินการนำสิ่งของทั้ง 6 รายการรีบไปบริจาคภายใน 3 วัน โดยในส่วนของเรือนยนต์ เครื่องยนต์ ทางเทศบาลเมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ได้ติดต่อขอรับนำไปใช้ในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป
เมื่อถามว่า ข่าวที่ออกมาเช่นนี้กระทบต่อความรู้สึกของประชาชน หากในอนาคตทางสภาฯ จะรับบริจาคอีก จะทำให้มีประชาชนร่วมบริจาคน้อยลง ตรงนี้จะทำอย่างไร นายไพจิตกล่าวยอมรับว่า เรื่องของบริจาคเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตนได้สั่งการไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาช่วงน้ำลดใหม่ๆ ให้รีบส่งของให้ประชาชนผู้เดือดร้อน
ซึ่งฝ่ายเก็บของต้องตระหนักตรงนี้ด้วย หากไม่มีค่าขนส่งของก็ขอให้ใช้เงินบริจาคส่งไป
“ต้องกราบขออภัยที่ยังมีข้อขัดข้อง การรับมอบของมีความจริงใจ แต่องค์กรก็ยังขาดความละเอียดอ่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องพยายามหาทางป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก”
นายไพจิตกล่าว