“ปู” ชี้แก้ไฟใต้ยังขาดเอกภาพ ยึดแนวพระราชดำรัสแก้ปัญหา

นายกฯ รับหน่วยงานแก้ไฟใต้ยังไม่มีเอกภาพ เตรียมตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ยึดแนวพระราชดำรัส เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา พร้อมเสริมทั้งงบฯ และกำลังพลแก้ปัญหา ควง “น้องไปป์” ร่วมงานการประชุมสุดยอดมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ

วันนี้ (29 เม.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังประชุมและรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ค่ายสิรินธร อ.ยะรัง จ.ปัตตานีว่า รัฐบาลเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและผู้นำศาสนา โดยนำนโยบายที่เป็นยุทธศาสตร์หลักด้านความมั่นคงที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งจะเน้นการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ดูแลประชาชนให้มีอาชีพรายได้ โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงและสันติสุขในการดูแลประชาชนให้มีความเสมอภาค

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาภาคใต้มี 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน ยอมรับว่าการทำงานยังไม่เป็นเอกภาพ แต่ต่อไปจะพยายามทำให้มีเอกภาพมากขึ้นโดยจะตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องเป็นแนวทางเดียวกัน โดยมอบให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ไปดำเนินการติดตาม โดยในส่วนของหน่วยงานมี ศอ.บต.และ กอ.รมน.ดำเนินการ ซึ่งจะให้มีการบูรณาการการทำงาน และนำเทคโนโลยีมาใช้ ในการปราบปรามมากขึ้น ขณะที่จะมีการตั้งจุดตรวจในทุกพื้นที่ และตั้งเพิ่มเติม โดยในเมืองให้ตำรวจรับผิดชอบ ส่วนนอกเมืองให้ กอ.รมน.รับผิดชอบ ซึ่งการให้ตำรวจมาช่วยเสริมให้การดูแลใกล้ชิดมากขึ้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน และหากกำลังพลหรืองบประมาณไม่เพียงพอก็สามารถเสริมได้ นอกจากนี้จะมีการปรับการทำงาน และทำเวิร์กชอป เพื่อให้การทำงานเป็นทิศทางเดียวกันด้วย

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ว่าจะยกเลิกหรือไม่นั้น ต้องหารือกันก่อน ส่วนแผนพัฒนาด้านเศรษฐกิจได้มอบให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพาณิชย์ ไปประชุมกับภาคเอกชนในการพัฒนา 5 จังหวัดภาคใต้ ให้ประชาชนมีรายได้ มีอาชีพ ส่วนการศึกษาและกีฬาต้องมีการส่งเสริม ด้านสามัญ ศาสนาและเสริมอาชีพ

ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. ภายหลังจากการลงพื้นที่ภาคใต้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินทางมาร่วมงานการประชุมสุดยอดมหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติ ครั้งที่ 1 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย เพื่อนำไปสู่การรวมกลุ่มวิจัยเชิงบูรณาการระหว่างมหาวิทยาลัย และเป็นเวทีในการแสดงผลงานวิจัยที่เกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยแห่งชาติทั้ง 9 แห่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงศักยภาพด้านการวิจัยของประเทศต่อการสร้างความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเพื่อแสดงให้เห็นถึงมิติใหม่ของการทำวิจัยเชิงบูรณาการทั้งประเทศ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชมนิทรรศการของมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดลที่ได้จัดแสดงคอมพิวเตอร์ที่เป็นนวัฒกรรมทางการแพทย์ในอนาคตที่ประยุกต์ใช้สัญญาณสมองกับอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยมี ผศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำเสนอผลงานวิจัยให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ สำหรับบรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีคณาจารย์ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ เข้าร่วมงาน ตลอดจนนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ และ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมด้วย