xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” โวย “สมศักดิ์” ขยายประชุมร่วมรัฐสภาแก้ รธน.พลการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
ส.ส.ปชป.โวย ปธ.สภาฯ สั่งเรียกประชุมร่วมรัฐสภาถกแก้ รธน.โดยพลการหวังสนองตัณหานายใหญ่ เบียดบังการทำหน้าที่ของสภาฯ ทำตาราง ส.ส -ส.ว.ป่วน ย้อนถามจะปิดสมัยประชุมได้เมื่อไหร่ แนะให้ฟังผลโพล ปชช.ต้องการให้แก้ปัญหาปากท้องมากกว่า แขวะปรองดองอาจแท้งก่อนคลอด เหตุเพื่อไทย-เสื้อแดงแตกคอกันเอง

วันนี้ (29 เม.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา มีหนังสือเรียกประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 ในวันที่1-3 พ.ค.ว่า ประธานรัฐสภาไม่ควรที่จะเร่งรัดเรียกประชุมโดยพลการ ควรให้วิป 3 ฝ่ายมีการพูดคุยหาข้อยุติเสียก่อน เพราะการเปิดประชุม 3 วันรวด เพื่อพิจารณาเฉพาะการแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้เบียดบังเวลาการประชุมของสภาผู้แทนราษฏร ซึ่งมีวาระการประชุมเป็นประจำทุกวันพุธและพฤหัสบดี และการประชุมวุฒิสภาก็จะมีทุกวันจันทร์ ฉะนั้นการประชุมร่วมที่สามารถทำได้ในแต่ละสัปดาห์ก็ควรเป็นวันอังคารเพียงวันเดียวเท่านั้น ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีข้อครหาว่ารัฐบาลขยายสมัยประชุมเพื่อวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อนายใหญ่โดยเฉพาะ ก็ควรจะให้ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.ได้ประชุมตามวาระปกติ เพื่อพิจารณากฎหมายฉบับอื่นๆ ที่ค้างคาอยู่ด้วย

“การรวบรัดเพื่อพิจารณาเฉพาะรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียวก็เป็นการยืนยันชัดเจนว่าการขยายสมัยประชุมครั้งนี้ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้สำเร็จ แต่กลับอ้างเหตุผลเรื่องกฎหมายค้างคามาเป็นเครื่องบังหน้า จึงอยากจะถามรัฐบาลว่าจะมีการขยายสมัยประชุมอีกนานแค่ไหน และจะปิดสมัยประชุมเมื่อไหร่ เพราะในขณะนี้พี่น้องประชาชนทวงถามถึงการปิดสมัยประชุมของ ส.ส. ของตนเอง เพราะตามปกติในการปิดสมัยประชุม
ส.ส.ก็จะเข้าร่วมกิจกรรมในการลงพื้นที่กับพี่น้องประชาชนได้เต็มที่ เมื่อขยายสมัยประชุมออกไป ก็ทำให้แผนงานกิจกรรมของประชาชนเกิดความสับสน การเชื้อเชิญ ส.ส.เข้าร่วมกิจกรรมก็จะถูกปฏิเสธ เพราะ ส.ส.ติดการประชุมสภาแทบทุกวัน”

นายเทพไทยังไม่เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยจะตีกรอบให้สมาชิกอภิปรายเพียงคนละ10-30 นาที เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้และขัดต่อข้อบังคับการประชุม เพราะการสงวนคำแปรญัตติเพื่ออภิปรายในรัฐสภาเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา และเหตุผลของการอภิปรายแต่ละประเด็นก็มีความสั้นยาวไม่เท่ากัน ในบางประเด็นใช้เวลาเพียง 5 นาที แต่บางประเด็นที่มีเหตุผลสำคัญเพื่อโน้มน้าวให้สมาชิกรัฐสภาเห็นด้วยต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงก็ได้ ดังนั้นไม่ควรทำอะไรในลักษณะผิดข้อบังคับ ขัดขวางการปฏิบติหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็อาจจะมีการร้องตีความว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านการพิจารณาโดยกระบวนการมิชอบด้วยข้อบังคับ ก็อาจจะเป็นโมฆะได้ จึงไม่เข้าใจว่ารัฐบาลเร่งรีบรวบรัดไปทำไม ควรปล่อยให้กระบวนการพิจารณาครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนปกติและธรรมชาติที่สุด และควรที่จะปิดสมัยประชุม ค้างการพิจารณาแก้ไขรํฐธรรมนูญไว้ เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ตนเองวางแผนไว้ แล้วค่อยไปพิจารณาในสมัยประชุมสามัญทั่วไปดีกว่าการขยายออกไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด จะทำให้ตารางการทำงานของรัฐสภาคลาดเคลื่อน ไม่เกิดความสมดุลระหว่างเวลาสมัยประชุมและการปิดสมัยประชุมที่กำหนดไว้ตามรัฐธรรมนูญ

นายเทพไทยืนยันด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจตนาที่จะขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด แต่เมื่อรัฐบาลเสนอร่างแก้ไขขึ้นมาแล้วก็ควรจะพิจารณาด้วยความรอบคอบ และจะใช้กระบวนการตามกฎหมายตรวจสอบไม่ว่าในขั้นการอภิปราย หรือการใช้สิทธิยื่นตีความ หากกระบวนการแก้ไขเกิดความไม่ชอบมาพากล และมีแนวโน้มที่จะเกิดการขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ อยากให้รัฐบาลกลับไปดูผลสำรวจของเอแบคโพลล์ ที่ 73.5% เห็นว่ารัฐบาลควรสนใจปัญหาปากท้องมากกว่าการปรองดอง หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้ทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้นในทันตาเห็น ข้าวของค่าครองชีพไม่ได้ถูกลง มีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพียงคนเดียวที่ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญเต็มๆ

ส่วนข้อกล่าวหาของโฆษกพรรคเพื่อไทยที่ว่าพรรคประชาธิปัตย์พยายามเสี้ยมให้คนเสื้อแดงเกิดความแตกแยกกับพรรคเพื่อไทยนั้น นายเทพไทกล่าวว่า เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปเสี้ยมให้เกิดความแตกแยกเพราะทุกอย่างปรากฏชัดว่าความขัดแย้งเกิดขึ้นจากพฤติกรรมของคนในรัฐบาล พรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างชัดเจน เพราะการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ และแกนนำ นปช. กับสมาชิกคนเสื้อแดง มีความเห็นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่โฟนอินและปราศรัยในประเทศลาว และกัมพูชา เรียกร้องให้เกิดความปรองดอง อวยพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และให้ญาติผู้เสียชีวิต 91 ศพ เสียสละเพื่อตัวเอง ให้ลืมเหตุการณ์ในอดีตเพื่อเข้าสู่การปรองดอง

“ภาพที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ารดน้ำดำหัว พล.อ. เปรม ที่ พ.ต.ท.ทักษิณปลุกระดมว่าเป็นมหาอำมาตย์ เป็นภาพที่แสลงใจของคนเสื้อแดง และพวกเขารับไม่ได้ที่ตัวเองถูกหลอกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และนำคนเสื้อแดงมาเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง เราแสดงความเห็นเรื่องนี้ก็เป็นแค่การแสดงเหตุผลทางการเมือง เพราะเห็นความขัดแย้งที่เกิดขึ้นก็อดเป็นห่วงถึงนโยบายการปรองดองของรัฐบาลไม่ได้ว่าอาจจะแท้งก่อนเกิด หรือล่มปากอ่าวเสียก่อน ฉะนั้นพรรคเพื่อไทยไม่ควรมาป้ายสี หรือใส่ร้าย ถ้าจะสร้างความปรองดองจริงต้องรีบไปสร้างความปรองดองในหมู่คนเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยให้ได้เสียก่อน” นายเทพไทกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น