รองเลขาฯ สภา ยังเชื่อมีคนส่งภาพสยิวเข้าทีวีผ่านไวร์เลส คาดรู้ผลจันทร์นี้

รองเลขาฯ สภาฯ อ้างทีวีสภารุ่นใหม่รับไวร์เลสได้หากมีคนส่งภาพเข้า เชื่อฝีมือคนในห้องประชุม จ่อทดสอบสัญญาณภายนอกเข้ามาได้หรือไม่ พร้อมสอบคอมพิวเตอร์ห้องโสต และสัญญาณไวไฟ คาดรู้ผล 23 เม.ย. ส่วนเจ้าหน้าที่ถ้าทำเจอไล่ออกแน่ แต่ป้องที่ห้องส่งเชื่อมอินเทอร์เน็ตไม่ได้

วันนี้ (19 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมเพื่อตรวจสอบกรณีภาพไม่เหมาะสมหลุดบนจอทีวีพลาสมาวงจรปิดที่กำลังถ่ายทอดการประชุมร่วมรัฐสภา ระหว่างการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่า ในเบื้องต้นชัดเจนว่าจอพลาสมาดังกล่าวนั้น เป็นแบบสมาร์ททีวี ที่เพิ่งติดตั้งมาได้ไม่นาน สามารถรับสัญญาณไวร์เลสได้ หากใครมีช่องสัญญาณที่ตรงกับรหัสของสัญญาณทีวีดังกล่าวได้ ก็จะสามารถส่งภาพ แปลงสัญญาณให้ปรากฏภาพอยู่บนจอทีวีได้ ส่วนอีก 3 จอที่อยู่ในห้องประชุมเดียวกัน แต่ไม่มีภาพปรากฏ คาดว่าสัญญาณส่งไม่แรงพอ เบื้องต้นเชื่อว่าผู้ส่งสัญญาณต้องอยู่ภายในห้องประชุมตามจุดต่างๆ เช่น ห้องประชุม บริเวณที่นั่งของผู้เยี่ยมชม และพื้นที่ทำงานของสื่อมวลชน เพราะหากอยู่นอกห้องประชุม สัญญาณอาจส่งมาไม่ถึงเนื่องจากมีกำแพงกั้นอยู่

นายคัมภีร์เปิดเผยด้วยว่า หลังการเลิกประชุมในวันนี้ ตนจะทดสอบว่า สัญญาณจากภายนอกสามารถส่งเข้าจอทีวีพลาสมาในห้องประชุมรัฐสภาได้หรือไม่ รวมไปถึงการสอบสวนที่วางไว้ 2 แนวทาง คือ ด้านเทคนิค ที่จะต้องตรวจสอบฮาร์ดแวร์ในคอมพิวเตอร์พีซีจำนวน 4 เครื่องที่อยู่ในห้องโสตทัศนูปกรณ์ ที่จะให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานสารสนเทศ ของสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ คาดว่าจะทราบข้อเท็จจริงได้ภายในวันจันทร์ที่ 23 เม.ย.นี้ ทั้งนี้ ต้องตรวจสอบดองเกิล (ส่งสัญญาณไว-ไฟ) ว่าภาพที่ปรากฏบนจอทีวีส่งมาจากมือถือของใคร รวมถึงต้องตรวจสอบในเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะด้วย

นายคัมภีร์กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันต้องตรวจสอบผู้ปฏิบัติงาน หากพบว่ามีความผิด จะถือว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงถึงถูกไล่ออกจากราชการ เพราะถือว่าเสื่อมเสียชื่อเสียงของสภาฯ แต่ตอนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายก่อน อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบประเด็นนี้ได้ส่งรายงานฉบับเบื้องต้นให้กับนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ซึ่งดูระบบงานไอที และนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ซึ่งดูระบบงานทีวีของรัฐสภา รับทราบแล้ว

นายคัมภีร์กล่าวต่อว่า ระบบทีวีวงจรปิดในห้องประชุมรัฐสภา ได้ถอดระบบส่งสัญญาณไว-ไฟออกไปแล้ว และใช้ระบบสายแลนแทน และจะงดใช้ระบบสัญญาณไว-ไฟ ไปจนกว่าจะตรวจสอบแล้วเสร็จ รวมถึงมีระบบป้องกันการเข้าถึงสัญญาณได้อย่างสมบูรณ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นนี้เจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ นายคัมภีร์กล่าวว่า ตอนนั้นมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ห้องโสตทัศนูปกรณ์ จำนวน 3-4 คน จะกล้าทำหรือ และเรามีข้อห้ามว่าอย่าดูภาพยนตร์ หรือภาพโป๊ อนาจาร อย่างไรก็ตาม ภายในห้องไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตได้