ที่ปรึกษา กม.แม้ว เดือดแทนนาย โต้ “มาร์ค” ควรมีมุมมองที่มีวุฒิภาวะกว่านี้ ยัน “แม้ว” ไม่ได้จับประเทศเป็นตัวประกัน หากไม่ได้รับการนิรโทษกรรม อ้างให้เคารพผลการเลือกตั้งสะท้อนความเป็น ปชต.
วันนี้ (12 เม.ย.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จับประเทศเป็นตัวประกัน และจะป่วนไม่เลิกถ้าไม่ได้รับนิรโทษกรรม ทั้งระบุว่า การปรองดองเป็นเพียงการล้างโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าตนไม่แปลกใจที่ นายอภิสิทธิ์ มีความเห็นเช่นนี้ เพราะเคยเป็นหัวหน้าพรรคที่แพ้การเลือกตั้งแก่พรรคฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ถึง 3 ครั้ง โดยไม่นับรวมการนำพรรคบอยคอตการเลือกตั้งในปี 48 นั่นแสดงให้เห็นว่าทุกครั้งที่ประชาชนมีสิทธิ์ตัดสินใจ ประชาชนตัดสินใจไม่เลือกนายอภิสิทธิ์ เป็นผู้นำ เคยเป็นนายกฯ ก็เพราะมีคนอุ้มชู หลังจากที่มีการยุบพรรคพลังประชาชนเท่านั้น และบริหารประเทศ 2 ปีกว่า บริหารงานล้มเหลวจนแพ้เลือกตั้งในปี 54
นายนพดล กล่าวต่อว่า นายอภิสิทธิ์ เป็นถึงอดีตนายกฯ อย่างน้อยควรมีมุมมองที่มีวุฒิภาวะกว่านี้ ไม่ใช่มองเหรียญเพียงด้านเดียว พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยจับประเทศเป็นตัวประกัน แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำจากการรัฐประหาร ตนขอถาม นายอภิสิทธิ์ ว่า เห็นด้วยกับการรัฐประหารหรือไม่ เห็นด้วยกับการตั้ง คตส.ที่เอาคนที่เป็นปฏิปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ มาเป็นกรรมการ คตส.และสอบสวนคดีหรือไม่ และถ้าไม่มีการรัฐประหาร และไม่มีรัฐธรรมนูญปี 50 ที่มาจากการรัฐประหารที่ให้อำนาจยุบพรรคอย่างไม่เป็นธรรม นายอภิสิทธิ์ จะมีโอกาสเป็นนายกฯ หรือไม่ คนส่วนใหญ่เขาทราบคำตอบ และสะท้อนในผลการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ว่า ใครเป็นพวกจับประเทศเป็นตัวประกัน ซึ่งไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ แน่นอน
นายนพดล กล่าวต่อว่า ตนเข้าใจว่า คนที่ได้ประโยชน์จากการยึดอำนาจ จากความขัดแย้ง และจากกติกาของประเทศที่เขียนทำลายคนอื่น แต่เอื้อพวกตน ก็คงไม่อยากเห็น การคืนความเป็นธรรม การเยียวยาความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น และการแก้ไขกติกาสูงสุด คือ รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ตนจึงขอถามว่า ถ้ามีการเยียวยา และคืนความเป็นธรรมและพาประเทศออกจากความขัดแย้ง เพื่อความปรองดอง และการสร้างโอกาสให้ประเทศไทยและคนไทย จะไม่ดีกว่าการอยู่ภายใต้ความขัดแย้งเช่นนี้ต่อไป ทั้งๆ ที่เป็นการถ่วงความเจริญหรือ
“ผมมั่นใจว่า ประชาชนส่วนใหญ่เลือกที่จะให้ประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง และเข้าสู่การปรองดอง เพื่ออนาคตของลูกหลานไทยทุกคน มากกว่าจะอยู่กับความขัดแย้งในอดีตที่มีอนาคตสำหรับคนบางกลุ่มบางคนเท่านั้น” นายนพดล กล่าว