“ถาวร” จี้กระทู้ถามนายกฯ แนะเยียวยาเหยื่อคาร์บอมบ์หาดใหญ่ เสนอส่ง รมต.รับงาน บก.ส่วนหน้าร่วมทำงานกับ จนท.ผู้น้อย เรียกขวัญกำลังใจ ด้าน “เหลิม” ป้อง “ปู” มีสิทธิมอบหมายตัวแทนทำงาน ขณะที่ “มาร์ค” ติงระเบียบจ่ายเยียวยาไม่ครอบคลุมเหยื่อระเบิดใต้ แนะรัฐนำกลับไปทบทวน
วันนี้ (5 เม.ย.) นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กระทู้สดเรื่องการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถามนายกรัฐมนตรีว่า เหตุการณ์ระเบิดคาร์บอมบ์ที่ อ.หาดใหญ่ได้สร้างความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน เศรษฐกิจ และนักท่องเที่ยวขาดความเชื่อมั่น มีการคาดการความเสียหายระยะสั้น 1 เดือน 1 พันล้านบาท และระยะยาวมีคนยกเลิกการจองห้องพักโรงแรม 12,500 ห้อง เสียหายนับพันล้านบาท ซึ่งเหตุระเบิดที่หาดใหญ่ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 5 โดยครั้งแรกในปี 2544 ยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ ใช้กำปั้นเหล็กอุ้มฆ่า ครั้งที่ 2 เกิดในยุค พ.ต.ท.ทักษิณเช่นกัน ส่วนครั้งที่ 3 เกิดในช่วง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกฯ ครั้งที่ 4 ในช่วงนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกฯ แต่ช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ไม่มีเหตุระเบิดเกิดขึ้นเลย ซึ่งปัญหาเกิดจากความไม่จริงใจของรัฐบาล กฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับกำหนดให้นายกฯ เป็นประธาน เช่น พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน มาตรา 5 ให้นายกฯ เป็น ผอ.รักษาความมั่นคงภายใน ดูแลรับผิดชอบงานความมั่นคงภายใน และมาตรา 6 พ.ร.บ.ศอ.บต.กำหนดให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ โดยมีนายกฯ เป็นประธานกรรมการ แต่ตั้งแต่เข้ารับหน้าที่เป็นรัฐบาลหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อกำหนดนโยบายเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติเพียง 2 ครั้ง และนายกฯ ไม่เคยเข้าประชุมสักครั้ง
ในยุคของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้ตั้งตนเป็นหัวหน้า บก.ส่วนหน้า ไม่ใช่ส่วนหลัง ร่วมแก้ปัญหากับข้าราชการโดยเฉพาะตำรวจชั้นผู้น้อย ตามการข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณได้แสดงความต้องการขอพบแกนนำกลุ่มก่อการร้ายเพื่อขอเจรจาสงบศึก มีมาพบเพียง 17 คน ระดับแกนนำไม่มา และในการเจรจาครั้งที่ 2 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางไปร่วมด้วย มีมาพบเพียง 15 คน แกนนำไม่ยอมมาพบเพราะกลัวลูบหลังแล้วตบหัว ตนขอถามว่า จากนี้รัฐบาลจะแสดงความจริงใจจริงจังด้วยการให้นายกฯ ลงมาดูแลด้วยตนเอง ในฐานะผอ.ศอบต และ กอ.รมน. และแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งไปอยู่ บก.ส่วนหน้า ร่วมทำงานกับระดับเจ้าหน้าที่เพื่อให้มีขวัญกำลังใจสัปดาห์ละ 3 วันหรือไม่
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายชี้แจงแทนนายกฯ ว่า ตนเป็นรองนายกฯ แต่ไม่ได้ดูแลด้านฝ่ายความมั่นคง และไม่ได้ดูแลด้านการข่าว จึงไม่มีเหตุที่ต้องเข้าร่วมประชุมด้วย แม้กฎหมายจะให้นายกฯ เป็นประธานคณะทำงานชุดต่างๆ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะมอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องทำหน้าที่แทน บางครั้งอำนาจก็ยังอยู่ที่นายกฯ ไม่ใช่ขาดเลย ตนยืนยันว่า ข่าวที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไปพบกับขบวนการก่อความไม่สงบนั้นไม่เป็นความจริง พ.ต.ท.ทักษิณอยากให้บ้านเมืองสงบ แต่พันธกิจไม่ใช่หน้าที่ของท่าน ในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ 2 ปี 8 เดือนไม่มีเหตุการณ์ระเบิด เพราะเหตุนี้ตนจึงอยากเชิญมาให้คำแนะนำกับรัฐบาล ยืนยันว่าได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยส่งทีมงานชุดหนึ่งเข้าไปหาข้อมูลมาให้ตน และรู้จักกับเจ้าของโรงแรมลี การ์เดนส์ เป็นอย่างดี
นายถาวรถามต่อว่า กำลังฝ่ายรัฐบาลมีหลายหน่วยงานจะมีการสนธิกำลังแก้ปัญหาหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนจะเชิญนายถาวรมาช่วยทำงาน บารมีตนสู้ไม่ได้ เพราะคลุกคลีทุกพื้นที่ ส่งใครลงไปประโยชน์ไม่เกิด เจ้าหน้าที่มาด่าว่าเดือดร้อนต้องมาดูแล เรื่องนี้ต้องมีการบูรณาการด้านการข่าวและด้านกำลัง ต้องเพิ่มความเข้มข้นในเขตเทศบาล ถ้าไม่พอต้องเอากำลังเจ้าหน้าที่ต่างๆ ไปช่วย ตำรวจต้องปฏิบัตการเชิงรุก มาตั้งรับไม่ได้ เฉพาะกำลังเจ้าหน้าที่อย่างเดียวไม่สำเร็จ ต้องอาศัยประชาชน แต่รัฐบาลไม่มี ส.ส.ในพื้นที่ และพรรคประชาธิปัตย์มีความใกล้ชิดกับพื้นที่มากก็ต้องอาศัยกัน ถ้าคนในพื้นที่ให้ความร่วมมือการแก้ไขปัญหาก็ง่าย
“แต่ต้องขอเถียงเรื่องที่ว่าตำรวจชั้นผู้น้อยขาดกำลังใจ เพราะยังมีกำลังใจดี เพราะรัฐบาลเลื่อนยศให้เป็นนายร้อยทุกคน ภรรยาก็ได้เป็นคุณนาย ตอนนี้ รองเท้าส้นสูงไม่มีขายเพราะไปซื้อมาร่วมพิธีประดับยศกันหมด”
นายถาวรถามต่อว่า หลังจากเกิดเหตุ สวนดุสิตได้ทำการสำรวจความเห็นของประชาชนพบว่าความ เชื่อมั่นลดลง 51 เปอร์เซ็นต์ มีความกังวล 58 เปอร์เซ็นต์ และต่างสะเทือนใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะมีคนตาย บาดเจ็บจำนวนมาก และความเสียหายต่างๆ อยากถามว่ามีการจะเยียวยาให้เหมือนกับเยียวยาการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงปี 52-53 หรือไม่ อย่าสองมาตรฐาน รัฐบาลต้องชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจในหาดใหญ่แบบเต็มที่
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า อย่าเอามาเทียบกับการเยียวยาให้กลุ่มเสื้อรัฐบาลไม่เยียวยาตามสี หรือกลุ่มใด ใครได้รับผลกระทบก็เยียวยาหมด แต่ตนไม่ได้เป็นประธานชุดนี้ เพราะมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม แต่ ตนคิดไม่ต่างกัน ว่ากรณีกรือเซะ ตากใบไม่น่าจะเกิด แต่เมื่อเกิดไปแล้วรัฐบาลต้องเยียวยา จึงขอรับข้อเสนอนี้ไป และเชื่อว่ารัฐบาลต้องเยียวยาให้ เพราะได้รับผลกระทบจากผู้ก่อความไม่สงบไม่ต้องไปให้เกียรติเรียกชื่อกลุ่ม เพราะสถานการณ์ล่าสุดไม่มีจิตวิญญาณ และอุดมการณ์ทำต่อผู้บริสุทธิ์ กระทบเศรษฐกิจ สังคม และจะพยายามใช้ปัญญาอันน้อยนิดตั้ง บก.ส่วนหลังให้มาดูแลปัญหา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวท้วงติงว่า กรณีการเยียวยาที่รัฐบาลได้ออกระเบียบมามีความแตกต่างจากปัญหาในภาคใต้ที่ระบุว่า ต้องได้รับผลกระทบจากเจ้าหน้าที่รัฐคือกรณีเหตุการณ์ที่กรือเซะ ตากใบ แต่เหตุการณ์นี้ไม่เข้าข่าย และต่างจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่รัฐบาลจ่ายเยียวยาให้หมด จึงฝากให้ ร.ต.อ.เฉลิมไปเรียนกับนายยงยุทธพิจารณาด้วย
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมรับปากว่าจะนำคำชี้นำไปหารือ และคาดว่าข้อสรุปน่าจะแก้ไขได้ เมื่อได้ข้อสรุปจะเรียนให้ทราบอีกครั้ง ขณะที่นายถาวรเสนอแนะว่าขอให้รัฐบาลทำการขึ้นบัญชีผู้เสียหาย 446 คนไว้ก่อน จนกว่ารัฐบาลจะหาทางเยียวยาได้