รัฐบาลตั้งเป้าเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวขึ้น 2 เท่า ใน 5 ปี ประกาศปี 55 เป็นปี “มหัศจรรย์ไทยแลนด์” พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ร่วมเฉลิมฉลองพระราชพิธีมหามงคล
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยว โดยมีผู้บริหารภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมประชุม เพื่อหารือเชิงวิทยาการ ทำงานแบบบูรณาการ เพื่อหาข้อสรุปในการดำเนินการ รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขปัญหาให้การท่องเที่ยวมีความเติบโตก้าวหน้า จากกรณีที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก เพื่อเร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ โดยประกาศให้ปี พ.ศ.2554-2555 เป็นปี “มหัศจรรย์ไทยแลนด์” (Miracle Thailand Year) เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว และดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยการประชาสัมพันธ์เชิญชวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าร่วมเฉลิมฉลองในพระราช พิธีมหามงคล ที่จะมีในช่วงปี พ.ศ.2554-2555 และนโยบายสร้างรายได้ให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งภายนอกและภายในประเทศ จัดให้มีการพัฒนาการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว และมีหลักประกันความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวในภาวะปกติและภาวะวิกฤต รวมทั้งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เชิงวัฒนธรรม เชิงสุขภาพ และสปาที่มีคุณภาพและมูลค่าเพิ่มสูง ให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวในเวลา 5 ปี
โดยในที่ประชุมได้มีการหารือเชิงปฏิบัติการด้านการท่องเที่ยวดังนี้ 1.นโยบายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ นโยบายการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว และนโยบายการส่งเสริมการลงทุนด้านการท่องเที่ยว 2.โครงการ Miracle Thailand Year ซึ่งจะมีการจัดงาน Miracle Year Amazing Thailand 2012 “ปีมหัศจรรย์เมืองไทย 2555” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยกำหนดจัดงานตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.-1 เม.ย.2555 ณ Hall 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี 3.การพัฒนา Brand การท่องเที่ยวไทย (ททท.) ซึ่งพัฒนาจาก Brand การท่องเที่ยวเดิม “Amazing Thailand” เน้นความเป็นมหัศจรรย์ของเมืองไทยมากขึ้น 4.การแก้ไขปัญหาการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิและภูเก็ต ซึ่งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือในทุกด้านเพื่อการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปอย่างเร่งด่วน และเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีความสามารถทางด้านภาษาเพื่อปฏิบัติงาน ตรวจคนเข้าเมือง ทำการติดตั้งช่องตรวจอัตโนมัติ โดยจะเปิดใช้บริการในวันที่ 11 เมษายน 2555 และจัดทำ SNAKE LINE อำนวยความสะดวกในการให้บริการผู้โดยสารให้รวดเร็วขึ้น
5.การแก้ไขปัญหาความปลอดภัย การเอาเปรียบและการหลอกลวงนักท่องเที่ยว โดยการจัดระเบียบผู้ค้าขายหาบเร่แผงลอยตามแนวชายหาด เพื่อความเป็นระเบียบและภูมิทัศน์ที่สวยงาม และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดทำ MOU ร่วมกับส่วนท้องถิ่น และผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจที่อาจจะเอาเปรียบนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความเชื่อมัน และมีมาตรฐานเรื่องราคาไม่ให้นักท่องเที่ยวถูกเอาเปรียบ
6.การยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการท่องเที่ยว โดยเฉพาะด้านมัคคุเทศก์ และบริษัทนำเที่ยว โดยรัฐบาลพร้อมสนับสนุนในการเรียนรู้ภาษาสำหรับมัคคุเทศก์ที่มีศักยภาพ มีความรู้ด้านภาษา และมีวุฒิการศึกษาเพื่อเพิ่มทักษะ มีความรู้ทางด้านภาษาให้สามารถสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศได้เป็น อย่างดี สำหรับการยกระดับมาตรฐานมัคคุเทศก์และบริษัทนำเที่ยว นายกรัฐมนตรีได้เสนอแนะว่า ควรจัดระดับคล้ายๆ กับการจัดระดับของโรงแรมเป็นระดับต่างๆ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาดำเนินการออกหลักเกณฑ์ เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการสร้างความประทับ และความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น 7.การส่งเสริมและพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และ 8.การพัฒนาบุคลากรด้านการท่องเที่ยวเพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน