รัฐบาลปรับยุทธศาสตร์การศึกษา ดูแลตั้งแต่ช่วงปฐมวัย เพื่อคุณภาพ

นายกฯ มอบ รมว.ศึกษา เปิดงาน “การศึกษาไม่ทอดทิ้งใคร สังคมไทยไม่ทอดทิ้งกัน” ประกาศส่งเสริมการศึกษาให้มีคุณภาพและเท่าเทียม ปรับยุทธศาสตร์ดูแลตั้งแต่เยาวชนตั้งช่วงปฐมวัย เพื่อคุณภาพ

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (16 มี.ค.) นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ประธานเปิดงาน “การศึกษาไม่ทอดทิ้งใคร สังคมไทยไม่ทอดทิ้งกัน” เนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจด่วนในช่วงเช้า

นายสุชาติกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการศึกษา (Education For All) ตามข้อตกลงของประเทศสมาชิกองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก หรือที่เรียกว่า “ปฏิญญาจอมเทียน” ที่นานาประเทศรวมทั้งประเทศไทยที่ลงนามร่วมกันต้องดำเนินการให้การศึกษาเป็นสิทธิพึงมีของประชากรโลก ให้บรรลุเป้าหมายที่เด็กทุกคนได้เข้าถึงการศึกษา ภายในปี 2558 รัฐบาลไทยให้ความสำคัญการส่งเสริมบทบาทให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา (All for Education) เพื่อประกันโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมให้แก่เด็กทุกคน

“ทุกวันนี้ยังมีเด็กไทยจำนวนมากที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ยังมีเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษากว่า 3 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 5 ของประชากรเด็กเยาวชนไทยทั้งระบบ เด็กในกลุ่มนี้กำลังเผชิญกับปัญหาความยากจน ถูกบังคับใช้แรงงาน อยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกล ไร้สัญชาติ ถูกดำเนินคดีในสถานพินิจ ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร รวมทั้งพิการและมีความบกพร่องในการเรียนรู้ จุดเริ่มต้นของการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่สำคัญ คือ การให้น้ำหนักที่การดูแลเด็กตั้งแต่ปฐมวัย ซึ่งจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันและถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า จากผลการศึกษาทางเศรษฐศาสตร์พบว่า หากเด็กได้รับสารอาหารและการดูแลสุขภาพที่ดีในช่วงแรกของชีวิตจะมีทักษะทางกายภาพและสติปัญญาที่ดีกว่า มีโอกาสการเข้าเรียนจนถึงระดับอุดมศึกษาที่สูงกว่า และสามารถลดโอกาสการซ้ำชั้นหรือออกกลางคัน และเป็นกำลังแรงงานที่มีคุณภาพ” รมว.ศึกษากล่าว

นายสุชาติกล่าวว่า รัฐบาลจึงร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในสังคม ดำเนินการนโยบายการศึกษาที่ครอบคลุม การประกันโอกาสอย่างทั่วถึงเท่าเทียม มุ่งพัฒนาเด็กอย่างรอบด้านตามวัย ผ่านปฏิญญาร่วมกันใน 3 ข้อ คือ 1. รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอให้สัญญาว่าภายใต้การนำของรัฐบาลจะดำเนินการให้ เด็กทุกคนที่เกิดมาในประเทศไทยได้รับการดูแลอย่างดีทั้งอาหารและการเลี้ยงดู ทั้งตัวเด็กและครอบครัว จนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะดูแลตั้งแต่ในครรภ์มารดาจนถึง 2 ปี 2. เด็กแรกเกิดจนถึง 5 ปีจะต้องได้รับโอกาสในการเข้าศูนย์เด็กเล็กและสถานศึกษาปฐมวัยที่มีคุณภาพด้วยงบประมาณท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง 3. เด็กประถมทุกคนจะต้องได้รับสิทธิทางการการศึกษาที่อ่านออกเขียนได้ทั้งจากโรงเรียนรัฐและเอกชน และเด็กทุกคนต้องได้รับอุปกรณ์การศึกษาที่ทันสมัยอย่างเท่าเทียมกันและทั่วถึง