“ปู” งดจัดรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ส่ง “นลินี” แจงกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ยืนยันไม่ซ้ำซ้อนกองทุนหมู่บ้าน เปิดโอกาสให้สตรีได้พัฒนาศักยภาพ ตั้งเป้าเข้าร่วม 10 ล้านคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน เช้าวันนี้ (10 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี งดจัดรายการ โดยได้มอบหมายให้นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายนที กฤชทอง ผู้อำนวยการกองทุนหมู่บ้านและชุมชน ชี้แจงถึงกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และกองทุนหมู่บ้านและชุมชน โดยมี น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111 เป็นผู้ดำเนินรายการ
นางนลินีกล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงมีในหลายมิติ แล้วแต่ว่าสตรีผู้นั้นอยู่ในสังคมแบบไหน ทั้งด้านของความเป็นอยู่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง และด้านสังคม ซึ่งมีในหลายเรื่องหลายระดับ จึงมีการตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีขึ้นเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้สตรีในทุกมิติ เป็นการเปิดโอกาสให้สตรีได้พัฒนาศักยภาพอย่างเต็มที่ ในการที่จะแรงสำคัญในการผลักดันพัฒนาประเทศได้
ส่วนการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมีการเร่งรีบเกินไปหรือไม่นั้น นางนลิตีกล่าวว่า ไม่ได้มีการเร่งรีบ เดิมเราจะปิดรับสมัครวันที่ 8 มี.ค.วันสตรีสากล แต่จากการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และสตรีทั่วประเทศจึงได้ขยายเวลาไปถึงวันที่ 31 มี.ค. เพื่อให้สตรีทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมมากที่สุด ซึ่งจากการลงพื้นที่ได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งในวันที่ 31 มี.ค.จะปิดรับสมัครในช่วงแรกเพื่อทำการคัดเลือกคณะกรรมการ จากนั้นจะเปิดรับสมัครต่อเพื่อให้สตรีได้รับสิทธิประโยชน์ เช่นการกู้เงิน การขอทุนไปทำการพัฒนาต่างๆ โดยคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าร่วมกองทุนสตรีจะต้องมีอายุ 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
ส่วนเมื่อมีกองทุนหมู่บ้านแล้ว ทำไมจึงต้องมีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีนั้น นายนที ชึ้แจงว่า กองทุนหมู่บ้านเรามุ่งเน้นให้เป็นแหล่งทุนระดับหมู่บ้าน ชุมชน ซึ่งเป็นการช่วยเหลือแบบรายบุคคล ซึ่งการสร้างพลังกลุ่มสตรีจะเป็นการช่วยเสริมความเข้มแข็งของภาคประชาชนได้ ช่วยส่งเสริมการแก้ไขปัญหามีความกว้างขวางมากขึ้น จากระดับหมู่บ้านไปสู่ระดับตำบล สำหรับสัดส่วนในการให้การพัฒนา นางนลินี กล่าวว่า จากการรับฟังความคิดเห็น พบว่าส่วนใหญ่กำลังเผชิญกับปัญหาด้านเศรษฐกิจต้องการที่จะพัฒนาอาชีพ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการบริหารงานของกองทุนฯ ตั้งแต่ระดับตำบลขึ้นไปที่จะวางแบบแผนออกมา
ส่วนจะมีการให้กองทุนเฉลี่ยจังหวัดละ 100 ล้านบาทหรือไม่นั้น นางนลินีกล่าวว่า งบฯ จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ เล็ก กลาง และใหญ่ เป็นไปตามประชากร เช่น ขนาดเล็ก 70 ล้านบาท, ขนาดกลาง 100 ล้านบาท และขนาดใหญ่ 110 ล้านบาท ซึ่งงบฯจะลงไปที่กรรมการจังหวัดแล้วกระจายไปสู่ภาคตำบลต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสมัครสมาชิกได้ฟรีได้ที่เว็บไซต์กองทุนฯ, กศน., ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน และ กศน.เขตสำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1111 กด 6 ทั้งนี้ ตั้งเป้าเมื่อปิดการรับสมัครในช่วงแรกวันที่ 31 มี.ค. จะมีสตรีเข้าร่วมกองทุนฯ ราว 10 ล้านราย ปัจจุบันอยู่ที่ 7-8 ล้านราย จากจำนวนประชากรหญิงของประเทศ 33 ล้านคน