รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กัมพูชา ยันชายแดน เขมร-ไทย เรียบร้อยดี ไม่ระหองระแหง ชู 2 รัฐคุยกันเรื่อยๆ ไม่มีปัญหาภาค 2 ไทยอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานภูมะเขือ เล็งจี้ผ่านคณะทำงานร่วมให้ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงศาลโลก อ้างไม่ได้ส่งกำลังพลเข้าพระวิหาร มีแต่จะเคลื่อนทัพออก
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่เมืองทองธานี พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สถานการณ์ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรระหองระแหงเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการแก้ไขปัญหาชายแดน รัฐบาลไทยกับกัมพูชา ต้องมีการพูดคุยกันอยู่เรื่อยๆ เพื่อหาจุดพัฒนาร่วมกันสองประเทศ เมื่อทุกอย่างเข้าหลักเข้าเกณฑ์ก็จะสามารถทำอะไรได้สะดวกมากขึ้น ปัญหาก็จะไม่มี ส่วนกรณีที่กองทัพภาคที่ 2 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานนบนภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษนั้น ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว อะไรควรหรือไม่ควรต้องค่อยๆ เคลียร์กันไป เพื่อลดความยุ่งยาก และความขัดแย้ง เพื่อให้สถานการณ์ผ่อนเบาไปเรื่อยๆ และที่สำคัญ ไทยกับกัมพูชาต้องร่วมมือกันในการขยายความสัมพันธ์ให้กว้างมากขึ้น
“ส่วนการประชุมคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา (jwg) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งแรก คาดว่า จะมีการประชุมเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกัน ซึ่งเราได้พูดคุยกับประเทศไทย ว่า จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมาเพื่อหารือปัญหาตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้น ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะต่อยอดจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไทยไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางกัมพูชาเขมรจะมีการเสนอโดยเฉพาะการมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามข้อตกลงและกติกาของศาลโลก ซึ่งการพิจารณาของศาลเราคงไม่มีปัญหา เพราะต้องขึ้นอยู่กับทางศาล เมื่อศาลว่าอย่างไรเราต้องปฏิบัติตามนั้น ส่วนสถานการณ์การปฏิบัติงานโดยรอบชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ถือว่า ดีขึ้น เข้าใจและพูดกันมากขึ้น ทุกอย่างสามารถคุยกันได้หมด ส่วนอนาคตอยากให้ไทย-กัมพูชา พัฒนาร่วมกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ทางกัมพูชาไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังเข้ามาในพื้นที่ มีแต่เคลื่อนออกจากพื้นที่ ส่วนการปรับกำลังทหารหรือไม่ต้องพูดกันทีหลัง ซึ่งต้องปรับกันอยู่แล้ว แต่ต้องรอให้ไทยกับกัมพูชาประชุมกันก่อน” พล.อ.เตีย บัญ กล่าว
วันนี้ (5 มี.ค.) ที่เมืองทองธานี พล.อ.เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมกัมพูชา ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สถานการณ์ทุกอย่างเรียบร้อยดี ไม่มีอะไรระหองระแหงเหมือนช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการแก้ไขปัญหาชายแดน รัฐบาลไทยกับกัมพูชา ต้องมีการพูดคุยกันอยู่เรื่อยๆ เพื่อหาจุดพัฒนาร่วมกันสองประเทศ เมื่อทุกอย่างเข้าหลักเข้าเกณฑ์ก็จะสามารถทำอะไรได้สะดวกมากขึ้น ปัญหาก็จะไม่มี ส่วนกรณีที่กองทัพภาคที่ 2 ได้อัญเชิญพระพุทธรูปขึ้นไปประดิษฐานนบนภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษนั้น ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว อะไรควรหรือไม่ควรต้องค่อยๆ เคลียร์กันไป เพื่อลดความยุ่งยาก และความขัดแย้ง เพื่อให้สถานการณ์ผ่อนเบาไปเรื่อยๆ และที่สำคัญ ไทยกับกัมพูชาต้องร่วมมือกันในการขยายความสัมพันธ์ให้กว้างมากขึ้น
“ส่วนการประชุมคณะทำงานร่วมไทย-กัมพูชา (jwg) ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในการประชุมครั้งแรก คาดว่า จะมีการประชุมเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกัน ซึ่งเราได้พูดคุยกับประเทศไทย ว่า จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมาเพื่อหารือปัญหาตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้น ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะต่อยอดจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไทยไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ทางกัมพูชาเขมรจะมีการเสนอโดยเฉพาะการมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามข้อตกลงและกติกาของศาลโลก ซึ่งการพิจารณาของศาลเราคงไม่มีปัญหา เพราะต้องขึ้นอยู่กับทางศาล เมื่อศาลว่าอย่างไรเราต้องปฏิบัติตามนั้น ส่วนสถานการณ์การปฏิบัติงานโดยรอบชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ถือว่า ดีขึ้น เข้าใจและพูดกันมากขึ้น ทุกอย่างสามารถคุยกันได้หมด ส่วนอนาคตอยากให้ไทย-กัมพูชา พัฒนาร่วมกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ทางกัมพูชาไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังเข้ามาในพื้นที่ มีแต่เคลื่อนออกจากพื้นที่ ส่วนการปรับกำลังทหารหรือไม่ต้องพูดกันทีหลัง ซึ่งต้องปรับกันอยู่แล้ว แต่ต้องรอให้ไทยกับกัมพูชาประชุมกันก่อน” พล.อ.เตีย บัญ กล่าว
