ครม.สุมหัวรับมือสภาถกแก้ รธน. แย้มกุมเสียง 300 หวัง ส.ว.อีกแค่ 25 คนร่วมลงเรือก็ผ่านฉลุย มอบ “เหลิม” หัวหน้าทีม “ประชา” ผู้ช่วย วางแทคติคแจงร่างรัฐธรรมนูญของรัฐบาลแค่สั้นๆ ไม่ลงรายละเอียด เลี่ยงเปิดช่อง ปชป.ถล่ม
วันที่ (22 ก.พ.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนยตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงต่อ ครม.ว่าในการประชุมสภาฯวันที่ 23-24 ก.พ.จะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ร่าง คือร่างของ ครม.พรรคเพื่อไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา โดยใช้เวลา 2 วัน แบ่งเวลาให้รัฐบาล ฝ่ายค้าน และส.ว.ฝ่ายละ 8 ชม. โดยรัฐบาลต้องอาศัยเสียง 325 เสียงผ่านความเห็นชอบ ซึ่งรัฐบาลมีอยู่ 300 เสียง จึงต้องการจาก ส.ว.อีก 25 เสียง ทั้งนี้ที่ประชุมมอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เป็นหัวหน้าคณะทำงานในสภาฯ และให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม เป็นผู่ช่วย ซึ่งนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวฯ ได้ซักถามว่าการโหวตลงมติเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะใช้ลักษณะแบบใด ซึ่งนายวรวัจน์ชี้แจงว่าให้ใช้วิธีการขานชื่อโดยลุกขึ้นยืนแสดงตนทั้ง 3 ร่างเพียงครั้งเดียว
รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า ร.ต.อ.เฉลิมได้ชี้แจงร่างในส่วนของรัฐบาลที่จะแถลงต่อสภา โดยระบุว่าจะต้องมีแท็กติก โดยให้อภิปรายร่างของครม.ให้สั้นที่สุด ใช้หลักการและเหตุผลในภาพใหญ่กว้างๆ เพียงไม่เกิน 10 นาที ไม่ต้องลงในรายละเอียดยกเว้นจะมีผู้ซักถามในเรื่องนี้ ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็เอะอะโวยไปอย่างนั้นเอง คราวที่แล้วก็ไม่เห็นจะแก้ไขอะไรเพราะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ ของตัวเองโดยแท้ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มั่นใจว่าจะชนะ แต่ในที่สุดก็แพ้ พอมาใช้เขตเลือกตั้งแบบรวมเบอร์ก็แพ้อีก จนในที่สุดก็กลับไปแก้ไขเป็นเขตละคนอีกครั้ง พยายามคิดสูตรประหลาด เป็น 375 บวก 125 ซึ่งทุกคนก็รู้ว่ามันไม่ยึดโยงกับประชาชน เพราะฉะนั้น ขอให้มั่นใจว่าไม่เคยมีร่างรัฐธรรมนูญฉบับไหนที่ยึดโยงกับประชาชนเท่ากับฉบับนี้ ส.ส.ร.ก็ล็อกไม่ได้ เพราะเลือกใครมาก็ยังไม่รู้