รองโฆษกพรรค พท.ฟูมฟายผ่าน"วู้ดดี้" อ้างป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงทั่วประเทศ โต้ ปชป.กล่าวเท็จป้ายสี ปัดไม่เคยถูกไล่ออกจากราชการ-เปลี่ยนนามสกุล หรือมีปัญหาครอบครัว จี้ขอโทษ“ยิ่งลักษณ์” ขู่ยื่นฟ้องฐานหมิ่นฯ
วันนี้ (20 ก.พ.) ร.ท.สุณิสา เลิศภควัติ หรือ หมวดเจี๊ยบ ได้ออกมาปกป้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีถูกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีเรื่องการไปปฏิบัติภารกิจลับโฟร์ซีซั่นส์ ผ่านรายการ “สายล่อฟ้า” ทางบลูสกายทีวีว่า ขอเรียกร้องให้ผู้จัดรายการสายล่อฟ้า ออกมาแสดงความรับผิดชอบแบบลูกผู้ชายด้วยการขอโทษนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่ได้พูดจาดูหมิ่นศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง พร้อมทั้งยังโต้ตอบกล่าวหาว่าตนอยากดัง มีปัญหาประสบความล้มเหลวในชีวิตรัก ถูกไล่ออกจากราชการ ซึ่งเรื่องนี้ได้เตรียมจะยื่นฟ้อง ส.ส.ประชาธิปัตย์ในข้อหาหมิ่นประมาทแล้ว
ร.ท.สุณิสา ได้กล่าวผ่านรายการ “เช้าดูวู้ดดี้” ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เช้าวันนี้ว่า ตนได้มีโอกาสได้ทำงานในกองทัพ ถือเป็นโอกาสที่ดีมากในชีวิต ได้ทำงานในหลายหน้าที่ร่วมทั้งยังได้โอกาสทำหน้าที่นักข่าวของกองทัพ ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ได้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ทำข่าวที่ประเทศอิรัก ซึ่งช่วงที่ไปก็ไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสได้กลับมานั่งอยู่ตรงนี้อีกหรือเปล่าด้วยจนกระทั่งตัดสินใจลาออกจากราชการ โดยให้เหตุผลจะไปศึกษาต่อ ซึ่งเป็นการลาออกอย่างถูกต้อง ไม่ได้ถูกไล่ออกตามที่ถูกกล่าวหา คนที่พูดเรื่องนี้เขาคงไม่รู้ความจริง เรื่องทั้งหมดมีเอกสารยืนยันถูกต้องชัดเจน โดยส่วนตัวไม่เข้าใจว่าคนที่พูดเขาพูดออกไปได้อย่างไร รวมถึงเรื่องการเปลี่ยนนามสกุล เราก็ไม่เคยเปลี่ยนนามสกุล จริงๆ เรื่องนี้จะไปชี้แจ้งในศาลมากกว่า ขออนุญาตเล่าสั้นๆ
“ส่วนเรื่องการบำบัด ชีวิตรักล้มเหลว เรื่องนี้คุณศิริโชค พูดแล้วมันมีผลกระทบในวงกว้างในเรื่องของสิทธิสตรี ผู้หญิงในประเทศไทยกว่าร้อยกว่าหมื่น กว่าแสนคน ที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต มีการหย่าร้าง ผู้หญิงเหล่านี้ จะถูกกล่าวและมองไปในอีกแง่มุมหนึ่ง ในขณะที่ประเทศไทยกำลังรณรงค์เรื่องสิทธิสตรี ประเด็นคือ คุณศิริโชคเป็น ส.ส. คนหนึ่งที่ดูแลประชาชน แต่คุณไม่เคารพสิทธิสตรีตรงนี้เลย เมืองไทยเป็นเมืองที่ให้โอกาส และยอมรับคนเสมอ ใครพูดอะไรก็ต้องรับผิดชอบต่อคำพูดนั้น ตอนนี้เรื่องนี้มันอยู่ที่ทัศนคติของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงมากกว่า ผู้หญิงในปัจจุบันต้องออกมาสู้ กับความความกลัวที่ผู้ชายจะแบล็กเมล์ในเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดไม่ควรจะเป็นแบบนี้หรือ อย่างน้อยเราควรเคารพสิทธิของสตรี โดยส่วนตัวไม่ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับท่านนายกรัฐมนตรีมากนักเมื่อเจอกันก็จะพูดคุยกันเรื่องงาน ท่านมักจะถามเรื่องทั่วๆ ไป ความต้องการของประชาชน การทำงานตามนโยบายที่วางไว้สำเร็จหรือขาดตกอะไร ท่านห่วงใยเรื่องงานมากกว่าเรื่องส่วนตัวอีกเท่าที่ดิฉันได้สัมผัส"หมวดเจี๊ยบกล่าว
