“เต้น” แค้นฝ่ายค้านกระทุ้งต่อมจริยธรรม โวยนายกฯตั้งผู้บริสุทธิ์ผิดตรงไหน

“ณัฐวุฒิ” ฉุนผู้ตรวจการแผ่นดิน ถามหาจริยธรรม “ปู” เลือก รมต. เจ้าตัวโอดนายกฯ จะตั้งผู้บริสุทธิ์มีคุณสมบัติครบไม่ได้หรือไง อ้างคำพิพากษายังไม่ถึงที่สุดถือเป็นผู้บริสุทธิ์ แถมผ่านการตรวจคุณสมบัติจาก สลค.ชุดเดียวกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้อน ปชป.ตั้ง “กษิต” ทำสัมพันธ์ไทย-เขมรร้าว ร้ายแรงกว่ากรณีของ “นลินี” เยอะ

วันนี้ (2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่กลุ่มกรีนได้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการแต่งตั้งนางนลินี ทวีสิน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการเกษตรและสหกรณ์ ว่าเข้าข่ายขัดจริยธรรม ทางผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการคัดเลือกแต่งตั้งบุคคลเพื่อแต่งตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งว่า ได้มีขั้นตอนพิจารณาตรวจสอบพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลทั้งสองตามบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไร โดยขอให้นายกรัฐมนตรีแจ้งกลับยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทราบภายใน 15 วันนั้น

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคงจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนตัวก็รู้สึกว่าการแต่งตั้งตนและรัฐมนตรีนลินี ซึ่งมีคุณสมบัติถูกต้องตามสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้มีมติไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อทางหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ติดใจสงสัย ตนก็คิดว่าทุกฝ่ายพร้อมให้ความร่วมมือตามกระบวนการ เรื่องนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์พยายามหยิบยกกรณีการปรับครม.มาเป็นประเด็นโจมตีประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของตนและกับดร.นลินี ทั้งที่จริงแล้วทุกคนก็ทราบว่า จริงๆ แล้วการแต่งตั้งเกิดขึ้นและเป็นไปโดยชอบตามกรอบของกฎหมาย

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า อยากจะเตือนสติพรรคประชาธิปัตย์ไว้หน่อยหนึ่งในกรณีนี้ ที่พยายามดึงเอาประเด็นของพวกตน 2 คนมาเป็นประเด็นทางการเมือง ต้องตระหนักอยู่ตลอดเวลาว่า ประชาชนยังจำได้ถึงเหตุการณ์ที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้วิจารณญาณในการแต่งตั้งตัวบุคคลเป็นรัฐมนตรี แล้วกรณีนั้นถือว่าเป็นกรณีที่ต้องอธิบายหนักกว่าตน 2 คนด้วยซ้ำไป อย่างของ ดร.นลินี พรรคประชาธิปัตย์พยายามจะบอกว่าเราไม่กลัวที่จะมีปัญหากับสหรัฐฯ หรือกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือยังไง ไปตั้งคนที่ขึ้นทะเบียนมีปัญหา และพยายามคาดคั้น ให้นายกรัฐมนตรี ตอบถึงท่าทีที่มีต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า แต่ไม่ได้มองดูตัวเองว่าตอนเป็นรัฐบาลไปตั้งนายกษิต ภิรมย์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งที่เคยผรุสวาทด่าทอผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยถ้อยคำหยาบคายจนเกิดความเสียหาย ทางฝั่งโน้นก็ไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ไปตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คนทักท้วงก็สนใจ ดื้อดึง ถึงขั้นมีการรบกัน ส่งผลให้คดีความเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารกลับเข้าสู่ศาลโลกอีกครั้ง สร้างความเสียหายใหญ่หลวงให้กับบ้านเมืองก็ไม่เคยมีสำนึก ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ แล้วมาพยายามคาดคั้นการแต่งตั้ง ซึ่งมันเป็นคนละกรณีกัน กรณีของ ดร.นลินีเป็นเรื่องส่วนตัวที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่าง ดร.นลินีกับผู้นำซิมบับเว ไม่ใช่แบล็กลิสต์ยาเสพติด หรือแบล็กลิสต์อิทธิพลใดๆ ต่างกันเลยระหว่างนายกษิตกับผู้นำกัมพูชา

“ตั้ง ดร.นลินีจนถึงวันนี้ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ไม่ได้เป็นปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เรื่องของนายกษิตเป็นในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลย เพราะไปด่าทอผู้นำเขาเสียหาย แล้วก็เสียหายจริงๆ ปราสาทพระวิหารอยู่ในศาลโลก แต่ไม่มีสำนึกความรับผิดชอบ นี่ต้องให้สติหน่อย ขอกระชากสำนึกความเป็นพรรคประชาธิปัตย์หน่อยว่า เวลาเล่นการเมือง อย่านึกว่าประชาชนเขาจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน” นายณัฐวุฒิกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นการสร้างความลำบากใจให้กับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ที่ต้องชี้แจงทางสังคม นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนเชื่อว่าเมื่อนายกฯ ตัดสินใจที่จะแต่งตั้ง ท่านก็คงไม่ได้กังวลถึงความลำบากใจอะไร เพราะการตรวจสอบคุณสมบัติไม่ใช่สิ่งที่นายกฯต้องทำ ส่วนราชการที่ต้องรับผิดชอบคือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งเคยตรวจสอบคุณสมบัติคณะรัฐมนตรีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่นแหละเป็นคนทำหน้าที่ ซึ่งเรื่องของคุณสมบัติจะไปขัดยังไง เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 39 บอกว่า คดีอาญาผู้ต้องหาคำพิพากษายังไม่ถึงที่สุด ถือเป็นผู้บริสุทธิ์ และขณะนีผมก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และนายกรัฐมนตรีจะตั้งผู้บริสุทธิ์ และมีคุณสมบัติตามกฎหมายเป็นรัฐบาลไม่ได้เลยหรือไง