รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เมินปรับ ครม.ปู 2 คาดหวังอะไรไม่ได้มาก ร้องทบทวนนโยบายพลังงานที่ ครม.ชุดที่แล้วนำพายุคข้าวยากหมากแพง ก่อนจะได้กินข้าวแกงจานละ 60 บาท ฉะ ยิ่งลักษณ์จัดหนักขึ้นราคาน้ำมันและก๊าซ กังขาทำไมไม่ยอมอุดหนุนราคาน้ำมัน สงสัยนักการเมืองถือหุ้น ปตท.หรือไม่ นอมินีเป็นใคร ย้อนสมัยหาเสียงประกาศว่าจะยกเลิกกองทุนน้ำมัน มาวันนี้หลอกต้มชัดๆ
วันนี้ (19 ม.ค.) นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนยินดีกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่น่าคาดหวังได้ไม่ต่างอะไรกับคณะรัฐมนตรีชุดแรก เพราะจะปรับคณะรัฐมนตรีอีกสักกี่ชุด ถ้านายกรัฐมนตรียังเป็น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ภาพลักษณ์และการบริหารจัดการคงไปคาดหวังเอาอะไรเพื่อประชาชนได้ไม่มากไปกว่าที่อ้างว่าเอาอยู่ตลอดเวลา งานแรกของ ครม.ปู 2 ขอเรียกร้องให้ทบทวนนโยบายด้านพลังงานที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชน ที่นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ กับ ครม.ปู 1 นำพาเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพง ประชาชนลำบากเดือดร้อนถ้วนหน้าแล้ว เนื่องจากขณะนี้การปรับราคาขายปลีกน้ำมันของ ปตท.โดยอ้างการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทั้งเบนซินและดีเซลอีกครั้ง
“นางสาวยิ่งลักษณ์ จัดหนักเบนซิน 91 ขึ้นอีกลิตรละ 1.07 บาท เป็นลิตรละ 38.54 บาท ดีเซลขึ้นอีกลิตรละ 64 สตางค์ ไปอยู่ที่ลิตรละ 31.13 บาท จัดหนักก๊าซเอ็นจีวีขึ้นอีกลิตรละ 50 สตางค์ แอลพีจีขึ้นไปอีกลิตรละ 41 สตางค์ ในเดือนกุมภาพันธ์หากไม่ต่ออายุการยกเลิกการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ก็จะทำให้ราคาน้ำมันต้องปรับขึ้นบวกไปอีกลิตรละไม่ต่ำว่า 6-7 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.55 เป็นต้นมาได้ขึ้นราคาก๊าซต่อไปตามกำหนดเดือนละ 50 สตางค์ จนครบสเต็ปแรกไปอีกลิตรละ 2 บาท ราคาน้ำมันดีเซลขึ้นไปถึงลิตรละกว่า 31 บาทแล้ว จากเดิมที่เคยอยู่ที่ลิตรละ 29.99 บาทในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นางสาวมัลลิกา กล่าว
รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เหตุใดรัฐบาลถึงไม่ยอมอุดหนุนราคาน้ำมัน โดยให้กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ช่วยอุ้มช่วยวางแผน เมื่อ ปตท.เป็นรัฐวิสาหกิจ ก็ต้องแบ่งเบาภาระของประชาชน ไม่ควรซ้ำเติมยามยากลำบากหลังภาวะวิกฤติน้ำท่วมทั่วเมืองอย่างนี้ ซึ่งเป็นเพราะ ปตท.มีนักการเมืองถือหุ้นที่เหลืออีก 49 เปอร์เซ็นต์ นอกเหนือจากกระทรวงการคลังใช่หรือไม่ และในนั้นมีนอมินีใครถืออยู่ใช่หรือไม่ ในผู้ถือหุ้น ปตท.นั้นมีบุคคลคุ้นเคยสั่งการมาใช่หรือไม่ อยากให้นายกรัฐมนตรีทบทวน
นอกจากนี้ นางสาวมัลลิกา กล่าวย้อนเหตุการณ์ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ประกาศตอนหาเสียงช่วงสุดท้าย ท่องสคริปกลางสายฝนวันหาเสียงว่า จะยกเลิกกองทุนน้ำมัน โดยลดภาษีน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ 7.5 บาทต่อลิตร น้ำมันเบนซิน 91 อยู่ที่ 6.7 บาทต่อลิตร และดีเซล 2.2 บาทต่อลิตร วันนี้ชัดเจนแล้วหลอกต้มกันชัดๆ โดนหลอกต้มกันทั้งประเทศผ่านมา 6 เดือน น้ำมันดีเซลแพงกว่ารัฐบาลที่แล้วอีกโดนต้มทั้งประเทศ เพราะนโยบายหาเสียงแบบนี้พอทำไม่ได้ เอาอะไรมารับผิดชอบ
“ตอนแรกบอกว่ายกเลิกกองทุนน้ำมัน ทำให้น้ำมันลดลง แล้วไหนตอนนี้หันมาเก็บเข้ากองทุนอีก นี่คือ ทักษิณคิด เพื่อไทยทำใช่หรือไม่ ต่อจากนี้ คือ กรรมที่ร่วมก่อ ก่อมา 15 ล้านเสียงเพื่อถึงยุคข้าวยากหมากแพง ซึ่งเดือดร้อน 65.4 ล้านคนใช่หรือไม่ ประชากรคิดกันง่ายๆ จำให้ได้ว่าวันนี้กินข้าวแกงจานเท่าไร จดไว้สัปดาห์หน้าราคาเท่าไร เดือนหน้าเท่าไร และคงไม่ลืมว่า ยุคอภิสิทธิ์เท่าไร ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ ครม.ชุดใหม่หยุดคิดเรื่องอื่นไว้ก่อนแต่ขอให้ทบทวนแก้ไขเรื่องนี้ หรืออย่างน้อยช่วยวางมาตรการลดความเดือดร้อนก่อนที่ประชาชนจะกินข้าวแกงจานละ 60 บาท” นางสาวมัลลิกา กล่าว
