คกก.สิทธิฯ ออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข่าวให้การสนับสนุนหนุนแก้ไข ม.112 ไม่มีมูลความจริง ย้ำ เป็นบทบัญญัติปกป้องพระเกียรติสถาบันฯ และเป็นหลักสากลที่นานาประเทศ ให้การปกป้องประมุขของประเทศในหลักเดียวกัน
วันนี้ (18 ม.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์กรณีมีการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสื่อมวลชนหรือสาธารณะโดยทั่วไป ในทำนองว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นบทบัญญัติที่ปกป้องพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นประมุขของประเทศ เฉกเช่นเดียวกับประมุขของรัฐต่างประเทศ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 133 แห่งกฎหมายนี้ และเป็นหลักสากลที่นานาอารยประเทศให้การปกป้องประมุขของประเทศในหลักการเดียวกัน
“ดังนั้น ข่าวที่ปรากฏต่อสื่อมวลชน หรือสาธารณะโดยทั่วไป ว่า กรรมการสิทธิมุนษยชนแห่งชาติ สนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น จึงเป็นข่าวที่คลาดเคลื่อนและไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด”
ทั้งนี้ กรรมการสิทธิฯ ขอยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยยึดหลักความสมดุลระหว่างสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นกับการรักษาพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
วันนี้ (18 ม.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกแถลงการณ์กรณีมีการเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวต่อสื่อมวลชนหรือสาธารณะโดยทั่วไป ในทำนองว่า กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเห็นว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นบทบัญญัติที่ปกป้องพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นประมุขของประเทศ เฉกเช่นเดียวกับประมุขของรัฐต่างประเทศ ดังบัญญัติไว้ในมาตรา 133 แห่งกฎหมายนี้ และเป็นหลักสากลที่นานาอารยประเทศให้การปกป้องประมุขของประเทศในหลักการเดียวกัน
“ดังนั้น ข่าวที่ปรากฏต่อสื่อมวลชน หรือสาธารณะโดยทั่วไป ว่า กรรมการสิทธิมุนษยชนแห่งชาติ สนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นั้น จึงเป็นข่าวที่คลาดเคลื่อนและไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด”
ทั้งนี้ กรรมการสิทธิฯ ขอยืนยันว่า จะปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยยึดหลักความสมดุลระหว่างสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นกับการรักษาพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข