“นายกฯ” ส่งสาร “วันเด็ก” ย้ำ รัฐบาลมีนโยบายปลูกฝังให้มีคุณธรรม รู้จักหน้าที่ของตนเอง แนะเยาวชนดูเหตุการณ์อุทกภัยใหญ่ไทยเป็นบทเรียนฝึกประสบการณ์ ชื่นชมเด็กเยาวชนจิตอาสาช่วยน้ำท่วม เชื่อ สะท้อนสำนึกที่ดีสังคมไทยไม่ทอดทิ้งกันยามทุกข์ยาก
วันนี้ (13 ม.ค.) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสารไปยังเด็ก เยาวชน ตลอดจนผู้ปกครองและผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการดูแลและพัฒนาเด็กและเยาวชนของชาติ พร้อมกับคำขวัญ เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ในวันเสาร์ที่ 14 ม.ค.2555 ว่า “สามัคคี มีความรู้คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี”
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า เด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญ และเป็นพลังในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองต่อไปในอนาคต รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน จึงมีนโยบายส่งเสริมพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ มีความรู้ คู่ปัญญา มีคุณธรรม ความสามัคคี และมีจิตอาสาเพื่อสังคม ตลอดจนมีนโยบายส่งเสริม ปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนรู้จักหน้าที่ของตนเอง อยู่ในระเบียบวินัย มีความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และที่สำคัญคือ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีความเลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ปีพุทธศักราช 2554 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ประชาชนเป็นจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งเด็กและเยาวชนต่างได้รับผลกระทบ ทั้งจากปัญหาครอบครัว การดำรงชีวิตและการศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ที่จะฝึกให้เรามีความเข้มแข็งและเป็นบทเรียนให้เด็กและเยาวชนทุกคนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีความสามารถต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดีต่อไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าชื่นชมและน่าจดจำก็คือ เหตุการณ์ครั้งนี้มีกลุ่มเด็กและเยาวชนจิตอาสาจำนวนหนึ่งได้ร่วมมือร่วมใจกันช่วยเหลือผู้ประสบภัย สะท้อนให้เห็นว่าเด็กและเยาวชนไทยมีจิตสำนึกที่ดี มีความเอื้ออาทรต่อผู้อื่น ทำให้เชื่อมั่นว่าสังคมไทยและพี่น้องคนไทยจะไม่ทอดทิ้งกันในยามทุกข์ยาก ถือเป็นคุณลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของคนไทยที่มีมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน
คำขวัญวันเด็กปีนี้ ตนเน้นให้เด็กไทยให้ความสำคัญในเรื่อง “ความสามัคคี” เพราะความสามัคคีทำให้ทุกอย่างสามารถสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน “มีความรู้คู่ปัญญา” หมายความว่า นอกจากเด็กและเยาวชนจะต้องพยายามศึกษาให้มีความรู้แล้ว ต้องนำความรู้นั้นมาทำให้เกิดปัญญา สามารถใช้ชีวิตได้อย่างถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ส่วน “คงรักษาความเป็นไทย” เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนควรใส่ใจ เพราะประเทศไทยมีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามเป็นเอกลักษณ์ มีภูมิปัญญาไทยซึ่งควรค่าแก่การรักษาไว้ สุดท้ายคือ “ใส่ใจเทคโนโลยี” หมายความว่า ในปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทต่อชีวิตของคนเราเป็นอันมาก จึงต้องใส่ใจ ต้องเรียนรู้ เพื่อเปิดโลกทัศน์และเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ แต่การใช้เทคโนโลยีก็ต้องรู้จักใช้อย่างเท่าทัน เข้าใจถึงประโยชน์ และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างสร้างสรรค์
ในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปี ๒๕๕๕ นี้ ตนขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและอำนาจศักดิ์สิทธิ์ในสากล ตลอดจนพระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดดลบันดาลประทานพรให้เด็กและเยาวชนไทย ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคน จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพกายและใจที่ดี เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์พัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้ารุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไป