ปชป.เดินหน้าร้องศาลปกครอง ค้านรัฐชดเชย “แดงเผาเมือง” ฉะอ้างเหตุการณ์ทางการเมืองสุดมั่ว เลือกปฏิบัติชัดเจน ทวงถามแทนเหยื่อไฟใต้ที่ได้น้อยกว่ามาก ชี้ “ตากใบ-กรือเซะ” ก็เป็นผลจากการเมือง ลุยร้องศาลอังคารหน้า พร้อมแจ้งความ สน.ดุสิต ขู่ ตร.ไม่่รับจะไปถึงศาลอาญา เหตุเผาเมืองเป็นคดีร้ายแรง ถึงขั้นก่อกบฏเป็นภัยต่อบ้านเมือง
วันนี้ (12 ม.ค.) ที่รัฐสภา นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเงา แสดงความเห็นถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเยียวยาผู้ที่รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ครอบคลุมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองทุกเหตุการณ์นับตั้งแต่กลุ่มพันธมิตรฯมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมัย นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รวมถึงเหตุรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 และเหตุการณ์ชุมนุมของคนเสื้อแดงจนถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเดือนเมษา-พฤษภาคม 2553 รวมวงเงิน 2 พันล้านบาท ว่า เป็นข้ออ้างซึ่งมติของ ครม.ในส่วนนี้ดูเป็นการนำเอาเงินภาษีอากรของประชาชนไปชดใช้ให้กับพรรคพวกของตนเอง ซึ่งข้อเท็จจริงกรอบหลักการตนเห็นว่า อาจเข้าข่ายกฎหมายของศาลปกครองที่เป็นการออกคำสั่ง หรือกฎที่มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม เพราะยังไม่ได้รวมเหตุการณ์กรณีตากใบ หรือกรือเซะ ความรุนแรง 4 จังหวัดชายแดนใต้ และกรณีทหารที่เสียชีวิตซึ่งได้รับเงินเพียงแค่ 3 ล้านบาท
นายสาธิตกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กรณีตากใบ หรือกรือเซะ ก็เป็นเหตุการณ์ทางการเมืองเช่นกัน และเข้าข่ายองค์ประกอบผู้ได้รับผลจากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวควรได้รับเงินดังกล่าว การออกมติ ครม.มีลักษณะเลือกปฏิบัติ และไม่เป็นธรรมและผิดมาตรา 9 ของศาลปกครอง ซึ่งตนจะดำเนินการยื่นฟ้องศาลปกครองในวันที่ 17 ม.ค.นี้ ในเวลา 13.00 น. นอกจากนี้ ตนเห็นว่าการดำเนินการของ ครม.อาจจะเข้าข่ายมาตรา 157 คือ เจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบ จากกรณีให้เงินเยียวยาผู้กระทำผิดกฎหมายอาญาที่มีความผิดร้ายแรงถึงขั้นก่อกบฏ เป็นภัยต่อความมั่นคง ตนก็จะไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนที่ สน.ดุสิต ในวันที่ 17 ม.ค.และถ้าไม่ได้รับความสะดวกหรือเจ้าพนักงานไม่รับแจ้งความตนจะดำเนินการยื่นคำฟ้องร้องต่อไปที่ศาลอาญา