โฆษกเพื่อไทย สับ “สุเทพ” อดีต ผอ.ศอฉ. ทำตัวเป็นวัวสันหลังหวะ โวยวายใส่ร้ายดีเอสไอเปลี่ยนสี หลังถูกเรียกสอบผังล้มเจ้า แขวะเวรกรรมตามทัน
วันนี้ (6 ม.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมจะเรียกไปให้ข้อมูลในฐานะอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) เกี่ยวกับผังล้มเจ้า ว่าคนในกรมสอบสวนคดีพิเศษท่าจะเปลี่ยนสีไปแล้วว่า การออกมาตีโพยตีพายของนายสุเทพเป็นไปตามประสาของคนที่น่าจะยังหลงในอำนาจ ตนอยากเตือนสตินายสุเทพว่า ควรที่จะเลิกออกมาโวยวายได้แล้ว เพราะนายสุเทพเป็นคนที่ให้ข้อมูลเรื่องผังล้มเจ้าขณะที่เป็น ผอ.ศอฉ.จึงควรที่จะต้องไปชี้แจงต่อดีเอสไอเพื่อความสง่างาม การที่นายสุเทพออกมาโวยวายนั้นมีแต่จะยิ่งเข้าเนื้อ เพราะนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ นายสุเทพก็เป็นคนตั้งมาเองกับมือ ดังนั้นการกล่าวหาในทำนองว่าท่าจะเปลี่ยนสีหรือเปลี่ยนใจไปแล้วนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
“อยากเรียกร้องนายสุเทพว่าเลิกกล่าวหาหรือโยนบาปให้ข้าราชการได้แล้ว แต่ควรที่จะให้ความร่วมมือในการไปให้ข้อมูลกับดีเอสไอจะดีกว่า เพราะจะทำให้ภาพของนักการเมืองใหญ่อย่างนายสุเทพดูดีกว่าการออกมาโวยวาย อย่าทำตัวเป็นวัวสันหลังหวะ ถ้านายสุเทพมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมจริงตามที่เคยพูดไว้เสมอตั้งแต่สมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เพราะข้าราชการในดีเอสไอก็เป็นคนเดิมๆ ทั้งสิ้น ไม่เห็นต้องกลัว อย่าทำปากกล้าแต่ขาสั่น เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายค้าน หรือประชาชน ทุกคนอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน” โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่นายสุเทพน่าจะมีพฤติการณ์ทำนองข่มขู่ข้าราชการโดยการกล่าวหาว่ามีใบสั่งจากคนในรัฐบาลนั้น อาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิดได้ ทั้งๆ ที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2552 วันนี้ปี 2555 แล้ว ใครทำอะไรไว้ประชาชนย่อมรู้ดี วันนี้เมื่อถึงเวลาเวรกรรมก็เลยตามมาทัน ใครที่ทำอะไรไว้ก็ย่อมรับได้รับผลนั้น