“ชูวิทย์” ขอพิสูจน์จุดยืน ลั่นประกาศสงครามบ่อนพนันปีหน้า ชนิดแฉหมดเปลือก ไม่จัดฉาก ประเดิมบ่อนใหญ่เดิม 4 จังหวัด ระบุจะไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอีก บอกเบื่อมากพูดถึงแต่คนคนเดียว ทั้งที่มีเรื่องให้ถกช่วยปชช.อีกมาก
วันนี้ 21 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย กล่าวถึงปัญหาการเปิดบ่อนการพนันในประเทศไทยว่า ในปีหน้าตนจะขอเปิดสงครามกับบ่อนการพนันอย่างเต็มตัว โดยที่จะไม่เล่นเกมการเมืองอีก เนื่องจากในขณะนี้ตนได้รับข้อมูลจากหลายๆ ภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นจากประชาชนผู้ประสงค์ดี และสายลับของตนที่ให้ลงไปหาข้อมูล โดยพบว่า บ่อนการพนันนั้นมีอยู่ 4 ขนาดคือ บ่อนของชาวบ้าน, บ่อนขนาดกลาง เช่น บ่อนในจังหวัดพิษณุโลก หลังห้างสรรพสินค้าโลตัส, บ่อนขนาดใหญ่ โดยพิจารณาจากจำนวนคนที่เข้าไปเล่นประมาณ 300 คนขึ้นไป และบ่อนอมตะ เช่น บ่อนเตาปูน และบ่อนในพื้นที่พระราม 2 พัฒนาการ กิ่งเพชร ทั้งนี้ตนจะนำข้อมูลที่ได้มาส่งไปให้กับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผู้บัญชาการตำรวจ แห่งชาติ ทั้งนี้บ่อนการพนันที่มีอยู่ใน 4 จังหวัดใหญ่ๆ เช่น จังหวัดกรุงเทพมหานคร ที่มีบ่อนอมตะอยู่ประมาณ 11 บ่อน จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดสงขลา
นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า ตนจะค่อยๆ เปิดเผยข้อมูลของบ่อนการพนันเรื่อยๆ โดยที่ตนจะขอทำงานในส่วนตรงนี้ โดยไม่มีการจัดฉาก เพราะตนเป็นพรรคเล็กๆ ก็จะขอพิสูจน์ด้วยผลงาน แม้ว่าตนจะถูกป้ายสีมาหลายครั้ง แต่ปีหน้าตนจะเปิดเผยข้อมูลแบบไม่เกรงใจอีก
“ผมจะไม่พูดถึงการเมืองอีก เพราะเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ พูดถึงเพียงแค่คน ๆ เดียว ทั้ง ๆ ที่มีอีกหลายเรื่องที่ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ไม่มีคนทำ เพราะจ้องแต่จะเล่นการเมือง” นายชูวิทย์กล่าว
นายชูวิทย์กล่าวต่อว่า ในปีหน้าตนจะขอเสนอให้มีการแก้ไขพระราชบัญญัติ สถานบริการ พ.ศ. 2509 ในมาตรา 6 ที่ระบุไว้ว่าผู้ขออนุญาตตั้งสถานบริการตาม มาตรา 4 ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์นั้น ตนคิดว่าอายุดังกล่าวนั้นน้อยเกินไป รวมไปถึงข้อที่ระบุไว้ว่าต้องไม่เป็นผู้เจ็บป่วยด้วยโรคติดต่ออันเป็นที่รังเกียจแก่สังคม โรคพิษสุราเรื้อรัง หรือโรคยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง ตนก็คิดว่าข้อนี้ระบุเอาไว้กว้างจนเกินไป และไม่รู้ว่าพูดถึงใคร ทั้งนี้ตนยังเห็นว่าผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ถือใบผู้ประกอบการนั้นจะต้องเป็นบุคคลเดียวกับผู้ที่เป็นเข้าของอาคาร หรือสถานที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอย่างเช่น กรณีของสถานบริการซานติก้า
“มีหลายคนต่อว่าผม ถึงอดีตที่เคยเปิดสถานบริการเช่นเดียวกับพวกเขา แต่ตอนนั้นกลับมาเอาเรื่องพวกเดียวกันเอง ผมอยากจะบอกว่า ปัจจุบันผมไม่ใช่พวกเดียวกับพวกเปิดสถานบริการอีกแล้ว เพราะผมถือเป็นฝ่ายนิติบัญญัติคนหนึ่ง” นายชูวิทย์กล่าว