ประธานกรรมการฝ่ายจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติโดยคู่สมรสคณะรัฐมนตรี แถลงโครงการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยพิจิตร, เชียงใหม่ บูรณะสาธารณสถาน โอ่ทำโครงการไม่ได้ใช้งบรัฐ ไม่มีผักชีโรยหน้า รับเป็นห่วง “ปู” หลังมีวางบึ้ม แต่เชื่อรัฐดูแลได้ ด้าน ภริยารองนายกฯ รับห่วง “เฉลิม” เผย เจ้าตัวใจเย็นขึ้น ชี้แล้วแต่คนมองเป็นสายล่อฟ้า
วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.นายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรสนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติโดยคู่สมรสคณะรัฐมนตรี พร้อมด้วยคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ร่วมกันแถลงโครงการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบอุทกภัยเป็นพระราชกุศล นำร่อง 2 จังหวัด คือ พิจิตร และเชียงใหม่ ว่า จะมุ่งเน้นการบูรณะสาธารณสถาน ทั้งโรงเรียน วัด สถานีอนามัย หลังอุทกภัยครั้งใหญ่ด้วยงบประมาณที่คณะกรรมการเราร่วมกันสมทบทุน อย่างไรก็ตาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีกระแสพระราชดำรัสในการแก้ปัญหาให้ทุกหน่วยงานนำไปปฏิบัติและทรงห่วงใยพสกนิกร คณะกรรมการจึงได้จัดโครงการดังกล่าวเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และขอขอบคุณผู้ที่ร่วมบริจาค ซึ่งเราจะมุ่งมั่นในการทำกิจกรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลต่อไป
จากนั้นเมื่อเวลา 14.45 น.นายอนุสรณ์ อมรฉัตร คู่สมรสนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเปิดโครงการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยถวายเป็นพระราชกุศล โดยคู่สมรสคณะรัฐมนตรี ว่า คณะคู่สมรสดีใจที่เราตั้งใจทำโครงการเพื่อเทิดพระเกียรติ วันนี้จึงมีภาพรวมมาให้เห็น เราภูมิใจที่ใช้งบประมาณอย่างจำกัด ไม่ได้ใช้งบประมาณจากรัฐบาลเลย เคยของบประมาณไว้ 20 ล้านบาท เพื่อทำงานเทิดพระเกียรติ แต่นายกรัฐมนตรีมาขอว่าเกิดอุทกภัย และขอคู่สมรสไม่ให้ใช้เงินจากรัฐบาลได้หรือไม่ คณะคู่สมรสจึงตกลงกันว่าจะบริจาคกันเอง และมีผู้มีจิตศรัทธาสมทบมามีประมาณ 10 ล้านบาท และได้มีการช่วยเหลือผู้ประสบภัย บูรณะซ่อมแซมต่างๆ ทั้งวัด โรงเรียนหลายแห่ง นอกจากนี้แม้ว่างานเทิดพระเกียรติบรรลุจุดมุ่งหมายแล้ว จากนี้ไปเราจะทำงานอื่นๆ ที่เป็นการกุศล เพื่อช่วยเหลือสังคม เช่น ปลูกป่าในพื้นที่ต่างๆ บูรณะช่วยเหลือต่างๆ ที่รัฐบาลช่วยเหลือไม่ถึงหรือช้า ไล่ลงมาจากลพบุรี อยุธยา ปทุมธานี เป็นต้น และโครงการอยู่ดีกินดีของประชาชน คงจะมีการประชุมเรื่อยๆ และเสนอเป็นโครงการเข้าสู่ที่ประชุม หากมีการเห็นชอบก็ดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม โครงการที่เราทำไปนั้นไม่มีการทำแบบผักชีโรยหน้าจะทำแต่ละครั้งจะส่งคนไปสำรวจและเห็นว่ามีความเดือดร้อนจริงก็จะเร่งไปทำให้ทันที และจะมีการติดตามประเมินผล
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีได้ฝาก หรือเสนอแนะอะไรหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สอบถามอยู่ตลอดถึงความคืบหน้าโครงการ และอยากให้ช่วยผู้ประสบภัยและสถานที่สาธารณะที่ยังเดือดร้อนอยู่ และบอกว่าถ้าเป็นไปได้อย่าเบียดบังงบประมาณรัฐบาล
คู่สมรสนายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงความเป็นห่วงนายกรัฐมนตรีหลังจากที่ที่มีการวางระเบิด 3 จุด ในกรุงเทพมหานคร ว่า เรื่องนโยบายต่างๆ รัฐบาลต้องว่ากันไป แต่ในทางครอบครัวก็รู้สึกเป็นห่วงเหมือนกัน ถ้าไม่จำเป็นก็ดูแลกันเป็นพิเศษ และนายกรัฐมนตรีก็ได้ฝากหน่วยรักษาความปลอดภัย แต่เชื่อว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการที่ดูแลได้ดี แต่เราก็ดูแลในส่วนของเราไม่ประมาทเท่านั้น
เมื่อถามว่า ปรับคณะรัฐมนตรีมีการประเมินผลงานแล้วหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า หลังจากนั้นไม่กล้าถามอีก กระซิบถามนายกรัฐมนตรีก็บอกว่าห้าม ไม่บอกอะไรแล้ว
ด้าน นางลำเนา อยู่บำรุง คู่สมรส ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่ขณะนี้มีการวิจารณ์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นสายล่อฟ้าให้มีการลอบวางระเบิด เป็นห่วงหรือไม่ว่า ในฐานะภรรยาก็เป็นห่วง แต่ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นคนรอบคอบ เมื่อเช้าพอทราบข่าวก็รีบออกไปตั้งแต่ยังไม่สว่าง เมื่อถามว่า ได้เตือนให้มีการพูดน้อยลงหรือไม่ นางลำเนา กล่าวว่า เป็นลักษณะส่วนตัวของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่แล้ว แต่ตอนนี้สุภาพ ใจเย็นกว่าเดิมขึ้นมาก และก็มาช่วยรัฐบาล ช่วยนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า คงไม่เป็นสายล่อฟ้าของรัฐบาล นางลำเนา กล่าวว่า แล้วแต่คนคิด แต่เราทำให้ประเทศชาติ ร่วมกันดูแล ในฐานะเมื่ออยู่ในรัฐบาลก็ต้องช่วยกัน และ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ค่อนข้างอาวุโสในด้านการเมือง อาจจะเป็นตัวประกอบ ช่วยมอง หากนายกรัฐมนตรี ขอความร่วมมือมาก็ยินดี แต่นายกรัฐมนตรีท่านก็เก่ง