“ศิริโชค” แนะจับตา “พ.ต.อ.วัลลภ” รับลูก “เหลิม” พลิกสำนวนนักข่าวยุ่นตาย โยนบาปเป็นฝีมือของรัฐ หวังลาก “มาร์ค-เทือก” เป็นตัวประกัน ออก กม.นิรโทษกรรมช่วย “ทักษิณ” ลือทำสำเร็จได้ตำแหน่งนายพลตอบแทน ยันคดีนี้ไต่สวน จนท.รัฐไม่ได้ ลุ้นศาลจะถูกแทรกแซงด้วยหรือไม่
เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา ในฐานะ รมว.กระทรวงเทคโนโลยีและสารสนเทศเงา (ไอซีทีเงา) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sirichok Sophaความว่า พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง รองผู้บังคับการ น.9 เป็นบุคคลที่สังคมต้องจับตา เพราะเป็นตำรวจคนสนิทของ ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง และเป็นผู้อาสาเข้ามาดำเนินการพลิกสำนวน ที่พนักงานสอบสวนชุดที่แล้วมีความเห็นว่าการตายของนักข่าวญี่ปุ่นไม่มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นการตายที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่บัดนี้มีความพยายามที่จะพลิกสำนวนให้การตายเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้อัยการส่งศาลตามมาตรา 150 วรรค 3 ของประมวลกฎหมายพิธีพิจารณาความอาญา “เพื่อให้ศาลทำการไต่สวน และทำคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึงเหตุและพฤติการณ์ที่ตาย ถ้าตายโดยคนทำร้ายให้กล่าวว่าใครเป็นผู้กระทำร้าย เท่าที่จะทราบได้” และเมื่อศาลมีความเห็นว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้ว ก็จะโยงนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์เป็นผู้สั่งการ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิต้องตาย เพื่อที่จะเอาเป็นตัวประกันในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมหรือกฎหมายปรองดอง
โดยแหล่งข่าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ถ้า พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง ประสบความสำเร็จในการพลิกสำนวน ก็จะได้ปูนบำเหน็จเป็นนายพล ในการโยกย้ายที่จะถึงในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป
“ผมไม่เคยรู้จักนายตำรวจท่านนี้ แต่เจอครั้งแรกในห้องสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมนายอภิสิทธิ์ และก็มีความรู้สึกได้ทันทีว่ามีความอคติ และมีความตั้งใจที่จะโยงนายอภิสิทธิ์ให้ผิดให้ได้ จึงได้มีการตรวจสอบประวัตินายตำรวจท่านนี้ ก็เลยถึงบางอ้อ เพราะได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง จะเป็นผู้รายงานตรงถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง โดยจะทำเป็นชาร์ต เป็นเพาเวอร์พอยต์ ทั้งๆ ที่ในข้อเท็จจริงมีหน้าที่รายงานถึง พ.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ประธานคณะกรรมการสอบสวนเท่านั้น ผมจึงไม่แปลกใจว่าทำไมนักการเมืองอย่างเฉลิมจึงรู้เรื่องคดีนี้มาก ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หน้าที่ เพราะเป็นผู้ให้นโยบายเท่านั้น”
ดังนั้น จึงฟันธงได้ว่า พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดพิเศษจะพยายามใช้ฝ่ามือปิดฟ้า พลิกสำนวนให้การตายของนักข่าวญี่ปุ่นนั้นเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้ศาลไต่สวนตาม มาตรา 150 วรรค 3 แม้ว่านักกฎหมายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนใหญ่จะมีความเห็นว่าไม่สามารถไต่สวนได้ เพราะในมาตรา 150 วรรค 3 ระบุชัด “ในกรณีที่มีความตายเกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่หรือตายในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่” ซึ่งในกรณีนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดอ้าง ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ว่ามีความเกี่ยวข้องกับการตายของประชาชนในทุกกรณี
วันนี้จึงเป็นบทพิสูจน์กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยว่าจะถูกแทรกแซงได้หรือไม่ เพราะจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของกระบวนการยุติธรรมที่สามารถส่งศาลไต่สวนตามมาตรา 150 วรรค 3 ทั้งๆ ที่ไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดอ้างว่ามีส่วนในการกระทำความผิด สรุปง่ายๆ คือ ไม่สนใจที่จะหาข้อเท็จจริง แต่อยากให้ศาลไต่สวน และลงความเห็นว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อจับนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ เป็นตัวประกันในการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทักษิณนั่นเอง เป็นอีกครั้งที่ตนต้องกล่าวคำว่าน่าเศร้าจริงๆ ประเทศไทย