รัฐมนตรียุติธรรม โบ้ยอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตอบย้ายแดงนอนคุกหลักสี่ ยันไม่ให้สิทธิพิเศษ-ยันน้ำลด ศปภ.ก็ลดขนาดตาม โยน “ยงยุทธ-กิตติรัตน์” ฟื้นฟู โอ่ทำงานดีไม่งั้นน้ำคงท่วมกรุง 2 เมตร
วันนี้ (8 ธ.ค.) ที่รัฐสภา พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงแนวคิดการเตรียมสถานที่คุมขังแห่งใหม่ บริเวณหลังสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อรองรับการย้ายผู้ต้องขังกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า คงต้องถามรายละเอียดจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เรื่องนี้มีการพูดมานานแล้วใช้ที่นี่ในการขังนักโทษการเมือง ที่ผ่านมา ก็มีการทบทวนกันหลายครั้ง ล้มเลิกบ้าง รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่บ้าง อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษกับคนเสื้อแดง เพราะเมื่อไปอยู่ในที่คุมขังก็มีกฎระเบียบการดูแลเช่นเดียวกับเรือนจำปกติทุกประการ ส่วนกรณีของ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช.ที่เพิ่งเข้ามอบตัว และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ จะเข้าข่ายหรือไม่นั้น คงต้องดูว่าเป็นคดีทางการเมืองหรือไม่ เรื่องนี้มีคณะกรรมการในการตรวจสอบอยู่แล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้ถือว่าคลี่คลายไปมากแล้ว และทาง ศปภ.ก็ได้ลดขนาดลง โดยเหลือเพียงแค่บุคลากรที่ใช้เพื่อประสานงานเท่านั้น ส่วนงานปฏิบัติการก็กลับไปอยู่ตามหน่วยงานต่างๆตามปกติ อย่างไรก็ดี การฟื้นฟูเยียวยาประเทศหลังน้ำลด ถือเป็นเรื่องของคณะกรรมการอีกชุดหนึ่ง ซึ่งมี นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ดูแลอยู่ เช่นเดียวกับการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม ก็มีคณะกรรมการที่มี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดูแลอยู่ โดย ศปภ.จะดูในเรื่องการเผชิญเหตุเฉพาะหน้าเท่านั้น หลังจากนี้ ก็มีหน้าที่ในการติดตามสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ว่าลดลงหรือไม่ ต้องมีมาตรการระบายน้ำหรือเครื่องมือใดเข้าไปอีกหรือไม่ รวมไปถึงในส่วนการจัดการขยะที่เกิดภายหลังน้ำลดตามจุดต่างๆ ด้วย
“หากให้ประเมินผลงานการทำงานของ ศปภ. ส่วนตัวได้ย้ำหลายครั้งว่า หาก ศปภ.ทำงานไม่ได้ผล ป่านนี้น้ำคงท่วม กทม.สูง 2 เมตรไปแล้ว อย่างลานพระบรมรูปทรงม้า คงต้องลอยเรือกันแล้ว ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าเรากั้นน้ำ และระบายน้ำได้ถูกจุดแล้ว” พล.ต.อ.ประชา กล่าว