xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ตปท.ซีก ปชป.ซัด “สุนัย” ส่อแอบอ้างตำแหน่ง ปธ.ฟ้องศาลโลกคดีเผาเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กมธ.ต่างประเทศ ซีกฝ่ายค้าน ซัด “สุนัย” อ้างใช้ตำแหน่งประธานบินฟ้องศาลโลกคดีเผาเมือง ทั้งที่ยังไม่ได้สอบ ส่อแฝงวาระการเมือง ทำชาติเสียหาย แนะมาแจงคดีฆ่าตัดตอนยุค “แม้ว” เล็งเช็กข้อเท็จจริงศาลโลกหลังยื่นเสร็จ

วันนี้ (8 ธ.ค.) นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการการต่างประเทศ (กมธ.) กล่าวถึงกรณี นายสนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.การต่างประเทศ เตรียมเดินทางไปศาลโลก เพื่อฟ้องคดี 91 ศพ ในฐานะประธาน กมธ.ต่างประเทศ พร้อมอ้างเดินทางโดยใช้งบประมาณส่วนตัวในการเดินทาง ว่า ตนขอยืนยันว่า ความสูญเสียในช่วงเหตุการณ์ความไม่สงบในช่วงเดือน เม.ย.และพ.ค.ปี 2553 ผู้ที่ถูกกล่าวหาทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายทุกประการ ทั้งผู้เคลื่อนไหวในการชุมนุมทั้งในและนอกประเทศ และเจ้าหน้าที่ เช่นเดียวกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯด้านความมั่นคง ก็ยืนยันถึงการให้ความร่วมมือด้วยการเตรียมเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในคดี 13 ศพ

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า แต่การที่ นายสุนัย จะเดินไปศาลโลกก่อนที่จะมีการสอบสวนในประเด็นดังกล่าว เห็นได้ชัดว่า มีวาระแอบแฝงทางการเมืองในขณะที่ข้อมูล หรือข้อเท็จจริงยังไม่ได้มีการสืบสวนจากกระบวนการยุติธรรมในขั้นต้นแต่อย่างใด การเดินทางไปให้ข้อมูลส่วนตัวที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการทางกฎหมาย และยังแอบอ้างว่า ดำเนินการในฐานะที่เป็นประธานกมธ.ต่างประเทศของสภา มีความสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นข้อมูลที่เชื่อถือไม่ได้ และยังจะนำความเสื่อมเสียมาสู่ประเทศ และกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย เรื่องนี้ยังไม่เคยนำเข้าสู่การพิจารณาที่ประชุม กมธ.แม้แต่ครั้งเดียวทั้งคดี 13 ศพ หรือ 91 ศพ ตามที่นายสุนัย กล่าวอ้าง เพราะฉะนั้นจึงมิชอบที่ นายสุนัย จะเดินทางไปโดยแอบอ้างว่าดำเนินการในฐานะประธานกมธ.ต่างประเทศ ซึ่งเมื่อ นายสุนัย กลับมาตนจะเสนอญัตติด่วนต่อ กมธ.เพื่อพิจารณาเรื่องที่อยู่ในเวทีประชาคมนานาชาติซึ่งค้างมาจากรัฐบาลในอดีต

นพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า หาก นายสุนัย ยืนยันที่จะดำเนินการในสัปดาห์นี้ ก็อยากให้ชี้แจงกรณีฆ่าตัดตอน เพราะเรื่องดังกล่าวผู้รายงานพิเศษต่อสหประชาชาติว่าด้วยการเสนอกฎหมายการสังหารอย่างรวบรัดและการสังหารโดยพละการ ของกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยระบุการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในการประกาศสงครามยาเสพติด ว่า อาจจะมีผู้เสียชีวิตโดยการกระทำโดยพละการของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผ่านการสั่งการจากผู้กำหนดนโยบายในขณะนั้น ซึ่งอยู่ในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทั้งยังมีการสรุปเป็นภาษาอังกฤษ ว่า เรื่องดังกล่าวนั้นอาจจะเข้าข่ายละเมิดข้อตกลงว่าด้วยสิทธิมนุษยชนตามที่ประเทศไทยได้ลงนามร่วมกันในปฏิญญาสากลปี 2491 มาตรา 1

“ถ้านายสุนัยจะไปก็อยากให้นำรายงานฉบับดังกล่าวเข้าไปชี้แจง เพราะเป็นเรื่องที่ยังค้างจากการดำเนินการของรัฐบาลในอดีตที่พวกตัวเองก็มีส่วนในการบริหารประเทศ และอาจจะมีส่วนต่อความรับผิดชอบถึงการสูญเสียกว่า 2,500 ศพที่เกิดขึ้น ส่วนการจะทำหนังสือแย้งต่อกรณีนี้หรือไม่นั้น ต้องรอเพราะการเดินทางไปนั้นก็ไม่ได้นำเจ้าหน้าที่ กมธ.ไปด้วยแต่นำทีมงานฝ่ายต่างประเทศของพรรคเพื่อไทยไป ซึ่ง กมธ.การต่างประเทศ จะสอบถามไปยังศาลโลกโดยตรงว่า การชี้แจงในเรื่องดังกล่าวมีเรื่องใดที่เป็นข้อเท็จจริง และเรื่องนี้เป็นที่น่าสังเกต ว่า ทันทีที่ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน แต่เมื่อถูกทักท้วงว่าไม่เหมาะสม การประชุม กมธ.การต่างประเทศครั้งต่อมา กลับไปประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศ และได้นำเรื่องดังกล่าวไปพูดคุยกับ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมต.ต่างประเทศ โดยไม่มีการประชุม กมธ.ตามปกติ” นพ.บุรณัชย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เข้าข่ายการแอบอ้างตำแหน่งประธานกรรมาธิการเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือไม่ นพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า โดยหลักแล้วผู้ที่มีตำแหน่งประธาน กมธ.จะดำเนินการใดนั้น ถ้าจะใช้ชื่อ กมธ.คนอื่นๆ ก็มีสิทธิ์ที่จะรับทราบ แต่เรื่องนี้ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่จนถึงวันนี้ก็ทราบว่า ไม่เคยนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชม กมธ.แม้แต่ครั้งเดียว ก็ต้องถาม นายสุนัย ว่าแอบอ้างหรือไม่

กำลังโหลดความคิดเห็น