นายกฯ เยือนอยุธยา เปิดอีเวนต์ทำความสะอาดโบราณสถาน แนะคนไทยร่วมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ถวายในหลวง เร่งฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม จี้ท้องถิ่นกู้โบราณสถาน ยันไม่ทอดทิ้งประชาชน ก่อนปล่อยปลา มอบถุงคืนชีพ ปลูกต้นสาละ
วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อเวลา 13.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ตำบลบ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมฟื้นฟูศาสนสถาน ที่เสียหายหลังจากเกิดเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวิทยา บูรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นางสุกุมา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายพระนาย สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ
โดย นายวิทยา กล่าวว่า เป้าหมายของโครงการ “ทำดีถวายพ่อ ฟื้นฟูอยุธยา” เพื่อเร่งฟื้นฟูสถานที่สำคัญของจ.พระนครศรีอยุธยา โดยเป้าหมายแรกคือการฟื้นฟูศาสนสถาน วัด มัสยิด โบสถ์คริสต์ และศาลเจ้า โดยจะฟื้นฟูวัด 19 วัด 9 มัสยิด 9 โบสถ์ 9 ศาลเจ้า เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของ จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนที่ 2 จะเป็นการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อให้ผู้ประกอบการเกิดความมั่นใจ และ 3 เป็นการฟื้นฟูพื้นที่การเกษตร ซึ่งถือเป็นอาชีพหลักของชาวอยุธยา ซึ่งในวันนี้ (4 พ.ย.) นายกฯจะเป็นประธานเปิดฤดูการเพาะปลูกในครั้งนี้ที่บ้านปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุยา ด้วย
ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนดีใจที่เป็นอีก 1 วันที่มาทำดีถวายพ่อ และฟื้นฟู จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นเมืองโบราณที่มีศาสนสถานสำคัญ เปรียบเสมือนเมืองหลวงของไทย ซึ่งเดือนนี้ถือเป็นเดือนที่คนไทยถวายพระพรชัยมงคล อยากให้ทั้งเดือนนี้เป็นเดือนที่คนไทยบำเพ็ญสาธารณะประโยชน์ถวายแด่ในหลวง
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า รัฐบาลอยากฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยกลับคืนมาโดยเร็ว เพราะถือเป็นความมั่นคงทางด้านเศษฐกิจ การจ้างงานไม่ติดขัด รวมถึงการฟื้นฟูบำรุงโบราณสถานต่างๆ ที่เป็นสถานที่เคารพของชาวอยุธยา อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย ตนอยากฝากผู้ว่าฯ นายอำเภอ นายก อบต. อบจ.และ ส.ส.ในพื้นที่ ให้ฟื้นฟูกลับคืนโดยเร็วที่สุด และให้ประชาชนกับมาใช้ชีวิตอย่างปกติ กินดีอยู่ดี ซึ่งเดือนนี้เป็นเดือนมหามงคล ถือเป็นขวัญกำลังใจให้คนไทยทุกคน มีพลังก้าวไปข้างหน้าและขอให้ปีหน้าเป็นปีที่สดใสของคนไทย ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลเยียวยาหลังน้ำลด โดยเฉพาะเรื่องอาชีพ โดยให้ผู้ว่าฯ และ ส.ส.ดูแลทุกข์สุขประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งวันนี้ตนเองอยากจะมอบน้ำใจถุงคืนชีพให้ประชาชนไปใส่ไว้ที่บ้าน ส่วนเรื่องเครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุดจะมีศูนย์ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กับประชาชน และขอยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งประชาชน จะดูทุกข์สุขทุกเรื่องของประชาชน
จากนั้นนายกฯได้ปล่อยพันธุ์ปลาและพันธุ์กุ้ง อย่างละ 1 ล้านตัว เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ต่อมานายกฯได้มอบถุงคืนชีพจำนวน 1 พันชุด ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย ซึ่งประกอบด้วย กาน้ำร้อน ผ้าห่ม มุ้ง พร้อมกับถ้วยชามจาน จากนั้นนายกฯได้ปลูกต้นสาละ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลด้วย
จากนั้นเวลา 14.10 น.นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางถึงวัดพระศรีสรรเพชญ์ เพื่อเข้าสักการะพระมหาราชาอนุสาวรีย์สมเด็จพระราชาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ก่อนที่นายกรัฐมนตรียังได้เป็นประธานเปิดงาน “บิวตี้ฟูไทยแลนด์” เพื่อเป็นการฟื้นฟูการท่องเที่ยวใน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีประชาชนและภาคเอกชนได้เข้าร่วมทำความสะอาดและบูรณะพื้นที่บริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์