“ประชา” เตรียมลงพื้นที่ภาคใต้ดูสถานการณ์อุทกภัย หลังรับศึกซักฟอกเสร็จ เพื่อหาทางช่วยเหลือ ยันการลงพื้นที่ไม่ได้เป็นการแก้ไขภาพลักษณ์ ศปภ.ทำงานล้มเหลว ขณะเดียวกันจะยังไม่ยุบ ศปภ.จนกว่าภารกิจจะเสร็จ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ส่งผลถึงนายกฯ วอนฝ่ายค้านพูดความจริง อย่าใส่สี ซ่อนเร้น อำพราง
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ.กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ที่เริ่มทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่องว่า สถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ ตนก็ได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ทราบว่าหลายจังหวัดประสบปัญหาเผชิญกับพายุต่างๆ เกิดความเสียหาย ซึ่งคาดว่า หลังจากเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่รัฐสภาเรียบร้อยแล้ว จะลงพื้นที่ในภาคใต้เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเร่งช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาอุทกภัยเป็นลำดับแรก เพราะหากเราจะไปแก้ไขธรรมชาติคงแก้ไขอะไรไม่ได้มากนัก ฉะนั้นจึงต้องลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์ ทั้งนี้ ยืนยันว่า การจะลงพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้แก้ภาพพจน์หรือแก้ข้อกล่าวหาสิ่งใดทั้งสิ้นของ ศปภ.ว่าที่ผ่านมาทำงานล้มเหลว แต่ว่าเป็นหน้าที่เราต้องช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบอุทกภัย
ส่วนพื้นที่ภาคใต้มีปัญหาเรื่องชีวิตและทรัพย์สินมากกว่าพื้นที่อื่นเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหาภูเขาถล่ม ดินสไลด์ จะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างไร พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้ต้องดูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าควรจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งจริงๆ แล้วต้องลงพื้นที่ไปดูให้เห็นภาพเพื่อจะได้รู้ว่าแนวทางในวางมาตรการในการช่วยเหลือได้
ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้รัฐบาลคงศูนย์ ศปภ.ไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชนแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่ขณะนี้ยังไม่คลี่คลายนั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ตราบใดที่ตนยังคงดำรงตำแหน่ง ผอ.ศปภ.อยู่ ก็เป็นหน้าที่ซึ่งต้องดำเนินการต่อไป
สำหรับปัญหาการเปิดประตูระบายน้ำที่ประตูพระยาสุเรนทร์ที่ยังไม่ได้เปิดไปที่ระดับ 1.5 เมตร ตามที่ได้ตกลงกับผู้ว่าฯกทม.นั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ยืนยันว่า ตนได้ประสานและส่งหนังสือด่วนที่สุดไปยัง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อให้มีคำสั่งเปิดประตูระบายน้ำดังกล่าวแล้ว ฉะนั้นต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปถามทางฝ่าย กทม.
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกิดความกังวลหรือไม่ เพราะขณะนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการประชุมเพื่อเตรียมเปิดศึกอภิปรายซักฟอก ในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ย. ) พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ไม่มี เพราะตนมีแต่ความจริงใจ มีแต่ความจริงที่จะตอบ เพราะฉะนั้นการตอบความจริง ไม่น่าเป็นปัญหา ไม่หนักใจ เฉยๆ ธรรมดา เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง
เมื่อถามว่า มองหรือไม่ว่าการอภิปรายครั้งนี้ตัวท่านจะเป็นสะพานเชื่อมไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีรายอื่นๆ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ไม่อยากมอง อยู่ที่แค่ตนก็ดีอยู่แล้ว ตนว่าไม่น่าจะมีปัญหา ฉะนั้นหากมีแรงกระเพื่อมก็ขอให้กระเพื่อมที่ตนก็เพียงพอ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ ที่การอภิปรายในครั้งนี้ฝ่ายค้านเลือกที่จะอภิปรายรัฐมนตรีเพียงบุคคลเดียวเท่านั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า คงไม่แปลก ตนอาจจะเป็นนักการเมืองหน้าใหม่จึงเป็นเรื่องธรรมดา ก็ดีเราจะได้ปีกกล้าขาแข็งได้บ้าง
ต่อข้อถามว่ารู้สึกอย่างไรเพราะการอภิปรายครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ใช้ขุนพลในการอภิปรายถึง 10 คน พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ก็สุดแท้แต่ จะใช้บุคคลอภิปรายถึง 10 หรือ 20 คน ก็ไม่เป็นไร ไม่หนักใจแม้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นผู้เปิดการอภิปรายในครั้งนี้เป็นคนแรก เพราะตนก็เห็นว่านายอภิสิทธิ์ รู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่านำเรื่องที่ไม่จริง ซ่อนเร้น อำพราง มาพูดกันก็พอ
ผู้สื่อข่าวถามว่ารู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่ พล.ต.อ.ประชายืนยันว่า ไม่มีเลยจริงๆ ไม่มีปัญหา ตนก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก อยากทำงานช่วยเหลือประชาชนมากกว่า เชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ตนจะได้มีการอธิบายทุกเรื่องราว เพราะเราพูดด้วยความจริงจริง ส่วนประชาชนที่รับฟังจะเชื่อหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าเราพูดด้วยความจริงใจจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นเป็นเรื่องของผู้ฟังอีกครั้ง