เสื้อแดง อ.ปง ยัวะ! “คางคกตู่-ก่อแก้ว” ขึ้นรถแห่สนับสนุนคู่แข่งคนเสื้อแดงที่เคยต่อสู้ย่านราชประสงค์ ชิงเก้าอี้นายก อบจ.พะเยา จวกยับไร้อุดมการณ์ นปช. ก่อนรวมตัวเผาเสื้อแดงต่อหน้า ลั่นเลิกใส่ถาวร และจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงขบวนการ นปช.อีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 30 ต.ค. ที่บริเวณตลาดนาปรัง ต.นาปรัง อ.ปง จ.พะเยา ระหว่างที่ นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. ขึ้นรถกระบะช่วยหาเสียงให้กับนายวรวิทย์ บุรณศิริ ผู้สมัครนายก อบจ.พะเยา ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้มีกลุ่มเสื้อแดงที่ใช้ชื่อว่า พะเยาอาร์มี ประมาณ 300 คน นำโดยนายอนุรักษ์ โป่งสุยา ประธานชมรมฯ พร้อมรถยนต์กระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียง กล่าวโจมตีนายจตุพร และก่อแก้ว ว่าทิ้งอุดมการณ์ นปช. กลายเป็นคนเพื่อไทยไปแล้วที่มาหาเสียงให้นายวรวิทย์ ซึ่งไปดึงเอาอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยกล่าวโจมตีพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นเลขาฯ
ทั้งนี้ กลุ่มพะเยาอาร์มีได้โห่ร้องขับไล่ขบวนรถหาเสียงของนายจตุพร ที่มีนายวรวิทย์ ผู้สมัคร นายก อบจ.ยืนอยู่บนรถด้วย แต่นายก่อแก้วก็ยังประกาศผ่านไมโครโฟนขอเสียงสนับสนุนให้กับนายวรวิทย์ โดยมีขบวนรถคนเสื้อแดงกว่า 10 คัน ที่สนับสนุนนายวรวิทย์ขับตามหลัง เมื่อกลุ่มพะเยาอาร์มีเห็นว่านายจตุพรไม่ยอมลงมาเจรจาด้วย กลุ่มคนเสื้อแดงพะเยาอาร์มีจึงพร้อมใจถอดเสื้อซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มคนเสื้อแดงออก แล้วปาใส่ขบวนรถของสองแกนนำ นปช. นอกจากนี้ยังนำเสื้อที่ถอดรวมกันกว่า 50 ตัว ราดน้ำมันเผากลางถนนต่อหน้าขบวนรถของนายจตุพร จนเกือบเกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้สนับสนุนทั้งสองฝ่าย
ด้าน นายอนุรักษ์ โป่งสุยา ประธานชมรมพะเยาอาร์มี กล่าวว่า สาเหตุการประท้วงครั้งนี้เพราะขาดความเชื่อมั่นในตัวแกนนำ นปช.ที่ไม่มีอุดมการณ์หลงเหลืออยู่ เนื่องจากการเลือกตั้งนายก อบจ. เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคเพื่อไทยไม่ควรลงมาสนับสนุนผู้ใดอย่างออกหน้าออกตาโดยใช้กระแสคนเสื้อแดง ซึ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกของคนในชุมชน เพราะนายไพรัตน์ ตันบรรจง อดีตนายก อบจ.พะเยา ที่ลงสมัครหมายเลข 2 ก็เคยสนับสนุนคนเสื้อแดงมาตลอด ดังนั้นจึงมีมวลชนที่ซ้ำซ้อนกัน และการที่นายจตุพร นายก่อแก้ว มาหาเสียงให้อีกคนหนึ่ง จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง พวกตนจึงต้องออกมาประท้วง ซึ่งหลังจากที่เผาเสื้อแดงไปแล้ว พวกตนซึ่งเป็นกลุ่มคนเสื้อใน อ.ปง ทั้งหมด จะเลิกใส่เสื้อแดง และจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ตลอดจนขบวนการ นปช.ทั้งหมด เพราะรู้เนื้อแท้ของแกนนำแล้วว่าไม่ใช่ทองแท้อย่างที่เข้าใจ