แหล่งข่าวชี้เบื้องหลังงัด พ.ร.บ.ป้องกันภัย นายกฯยอมปล่อยไฟเขียว เพราะ “ทนายถุงขนม 2 ล้าน” รับรองไม่กระทบอำนาจ รบ. ด้าน “บิ๊กโอ๋” หนุนเต็มสูบแก้ปัญหา ศปภ.ง่อย เหล่าทัพเอาด้วย แย้มผลร้ายหากผู้รับคำสั่งฝ่าฝืนประกาศ ศปภ.ต้องรับผิดชอบเอง
มีรายงานจากที่ประชุม ศปภ.ถึงเบื้องหลังการที่รัฐบาลตัดสินใจใช้ พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยว่า เรื่องนี้รัฐมนตรีและผู้บริหารใน ศปภ.ได้มีการหารือกันมาตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคมแล้วถึงการหาทางรับมือกับสถานการณ์ หากควบคุมน้ำและคนไม่อยู่ หลังเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งของประชาชนในหลายพื้นที่ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 20 ต.ค. กรณีที่ประชาชนเขตดอนเมือง ช่วงรอยต่อปทุมธานี-กทม. บริเวณสี่แยกศรีสมาน ริมคลองประปา เข้ายึดรถแบ็กโฮของทหารจำนวน 2 คัน จึงทำให้เกิดความกังวลว่าจะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในที่ประชุมมีผู้บัญชาการเหล่าทัพทุกเหล่าทัพเข้าประชุม รวมถึงผู้บริหาร ระดับสูงหลายหน่วยงาน หารือกันอย่างจริงจังว่าจะรับมือสถานการณ์อย่างไร โดยมีการหยิบยกปัญหาเรื่องความไม่เป็นเอกภาพในการแก้ปัญหาระหว่าง ศปภ.-รัฐบาลกับกทม.มา พูดคุยกัน รวมถึงมีการนำการเสนอข่าวของสื่อมวลชนที่เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม เช่น การให้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือการให้มีการบังคับใช้พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งในส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไม่ทำอยู่แล้วสำหรับรัฐบาล แต่เรื่องพรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เมื่อเห็นว่าสื่อเสนอว่าแนวทางนี้จะทำให้การแก้ปัญหามีเอกภาพ และมาตรการก็ไม่ได้ทำให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกมากเกินไปจึงตัดสินใจประกาศใช้
รายงานแจ้งต่อว่า ก่อนหน้าที่จะมีการนำเรื่องนี้มาคุยกัน ฝ่ายรัฐบาลโดยเฉพาะรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้มีการหารือกับฝ่ายกฎหมายในพรรคเพื่อไทย คือ นายพิชิต ชื่นบาน ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพื่อไทย ที่เป็นทีมทนายของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ไปดูข้อกฎหมายมาให้ก่อน ซึ่งนายพิชินก็ได้ไปพิจารณามาแล้วจึงเสนอกลับมายังคนใน ศปภ.ว่าการใช้กฎหมาย นี้เป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้การแก้ปัญหาน้ำท่วมมีเอกภาพและได้ประสิทธิภาพมากขึ้น แต่เมื่อมีการนำเรื่องนี้ไปแจ้งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทางนายกรัฐมนตรีก็พยายามบอกว่ายังไม่ถึงเวลา แต่เมื่อทาง ศปภ.ได้ให้นายพิชิตไปดูมาแล้วและเห็นว่าถ้าประกาศใช้จะไม่มีผลกระทบอะไร ทำให้นายกรัฐมนตรีเห็นด้วยและหยิบเรื่องนี้มาคุยกัน
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อมีการคุยกันในที่ประชุม รัฐมนตรีและผู้บริหารศปภ.ก็พูดตรงกันว่าควรมีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันภัย เช่น พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.คมนาคม และอดีตผู้ช่วย ผบ.ทอ.ที่แสดงความคิดเห็นสนับสนุนว่าขณะนี้เหมาะสมแล้วกับการประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน และบิ๊กทหารหลายคนก็เห็นด้วย ซึ่งแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาในพื้นที่น้ำท่วมใน กทม. แต่จะทำให้การตัดสินใจแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบกรุงเทพฯ เช่น นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี จะทำได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้การป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ กทม.ได้ผลด้วย เช่น ถ้านายกรัฐมนตรีสั่งให้ระบายน้ำพื้นที่โดยรอบ กทม. ผู้ว่าราชการจังหวัดรอบนอกก็ต้องปล่อย เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ว่าฯและนักการเมืองหลายคนมักจะห่วงพื้นที่ฐานเสียงตัวเองจนทำให้การสั่งการบางเรื่องเดินไปไม่ได้ และเมื่อมีการประกาศกฎหมายฉบับนี้มาบังคับใช้แล้วหาก ศปภ.มีคำสั่งอะไรลงไปแล้วระดับปฏิบัติทำผิดพลาดก็ต้องรับผิดชอบโดยตรง
