“ประชา” ควง “หญิงหน่อย” ขึ้น ฮ.ดูพื้นที่ทุ่งรังสิต เตรียมปรับแผนผันน้ำกันเขต กทม. ด้าน “อนุดิษฐ์” มั่นใจนิคมลาดกระบังเอาอยู่ หลังวิศวกรรมสถานฯ คุมเสริมพนังกันน้ำเอง ปัดมุ่งป้องกันแค่พื้นที่ฐานเสียง ชี้จำเป็นต้องดูแลเมืองหลวงเป็นพิเศษ พื้นที่ใกล้เคียงอาจได้รับผลกระทบบ้าง
วันนี้ (19 ต.ค.) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.กระทรวงการยุติธรรม ฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ถึงสถานการณ์น้ำที่จะไหลเข้าท่วมกรุงเทพมหานครว่า ในส่วนของเขตลาดกระบังได้มีการปรับแผนการปรับน้ำ จากการประเมินในภาพรวมของมวลน้ำทั่วประเทศที่จะไหลเข้ามา โดยจะมีการทำคันกั้นน้ำรอบพื้นที่อุตสาหกรรมนิคมลาดกระบังเพิ่มเติม เบื้องต้นนั้นทางวิศวกรรมสถานฯ ได้หารือกับผู้ประกอบการนิคมลาดกระบังเพื่อเข้าไปดูความแข็งแรงของคันกั้นน้ำดังกล่าวเพื่อให้ได้มาตรฐาน โดยได้นำบทเรียนจากในอดีตมาปรับปรุงและแก้ไข
น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำยังไม่มากจนเกินไปที่จะผันน้ำไปทางตะวันออก เพื่อให้รับกับการปรับแผนและผันน้ำออกไปสู่ทิศทางที่ดีขึ้น โดยขณะนี้น้ำในพื้นที่ดังกล่าวเป็นลักษณะของน้ำทุ่งที่ท่วมขังอยู่ ไม่ใช่น้ำในลำน้ำปกติ อย่างไรก็ตาม การวางแผนบริหารจัดการน้ำที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงนั้น ช่วงเช้านี้ พล.ต.อ.ประชา พร้อมด้วยคุณหญิงสุดารัตน์ และทีมงานเตรียมขึ้นเฮลิคอปเตอร์สำรวจปริมาณน้ำที่บริเวณทุ่งรังสิต เพื่อให้เกิดการเห็นภาพที่ชัดเจนมากกว่าการดูแต่ภาพถ่ายจากดาวเทียมซึ่งอาจจะล่าช้าไม่ทันต่อสถานการณ์
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่าการผันน้ำของ ศปภ.ป้องกันการเข้าสู่ทุ่งรังสิต เพราะเป็นฐานเสียงของนักการเมือง น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า ข้อเท็จจริงคือต้องการป้องกันภาพรวมของกทม. การผันน้ำจึงต้องออกไปทางซ้ายและขวา ทั้งนี้ กทม.มีความสำคัญเพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ มีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องรักษาพื้นที่ไว้เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูในอนาคต