มหาดไทย เสนอร่างกฎกระทรวง ชดเชยความเสียหาย บุคคลที่ไม่ได้ประโยชน์จากการบรรเทาสาธารณภัย อาศัยมาตรา 43 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสารณภัย พ.ศ.2550
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินของผู้เสียหาย ซึ่งมิใช่ผู้ได้รับประโยชน์จากการบำบัดภยันอันตรายจากสาธารณภัย โดยร่างดังกล่าวอาศัยมาตรา 43 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสารณภัย พ.ศ.2550 บัญญัติให้การปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ และเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัตินี้ หากเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของผู้ใด ซึ่งมิใช่เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการบำบัดภยันอันตรายสาธารณภัยนั้น ให้ทางการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้นั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
“ยกตัวอย่าง เช่น ถ้ามีเหตุอันจำเป็น มีหมู่บ้านหนึ่งน้ำไม่ท่วม แต่กระทรวงมหาดไทยจำเป็นต้องบำบัดสาธารณภัยโดยการสูบน้ำเข้าไปในที่ที่ไม่ควรที่จะได้รับสาธารณภัย จากเดิมไม่สามารถชดเชยได้ แต่เมื่อ มี พ.ร.บ นี้ ทำให้กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจในการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบนั้น” นายชลิตรัตน์ กล่าว
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.รับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ทรัพย์สินของผู้เสียหาย ซึ่งมิใช่ผู้ได้รับประโยชน์จากการบำบัดภยันอันตรายจากสาธารณภัย โดยร่างดังกล่าวอาศัยมาตรา 43 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสารณภัย พ.ศ.2550 บัญญัติให้การปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ และเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัตินี้ หากเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของผู้ใด ซึ่งมิใช่เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการบำบัดภยันอันตรายสาธารณภัยนั้น ให้ทางการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นให้แก่ผู้นั้น ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้
“ยกตัวอย่าง เช่น ถ้ามีเหตุอันจำเป็น มีหมู่บ้านหนึ่งน้ำไม่ท่วม แต่กระทรวงมหาดไทยจำเป็นต้องบำบัดสาธารณภัยโดยการสูบน้ำเข้าไปในที่ที่ไม่ควรที่จะได้รับสาธารณภัย จากเดิมไม่สามารถชดเชยได้ แต่เมื่อ มี พ.ร.บ นี้ ทำให้กระทรวงมหาดไทยมีอำนาจในการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบนั้น” นายชลิตรัตน์ กล่าว
