รมว.อุตสาหกรรม เตรียมหารือ 3 ผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ ที่ประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อหาทางช่วยเหลือก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า ด้านคนชรากว่า 6 ล้านคนทั่วประเทศ เฮ ครม.ไฟเขียวปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพ มีผล 1 ต.ค.นี้
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่สนามบินดอนเมือง นายแพทย์ วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.อุตสาหกรรม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจากนี้ ตนจะหารือผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์รายใหญ่ที่สุดในโลก และมีโรงงานการผลิตอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน บริษัท เอคโค่ (ประเทศไทย) จำกัด ที่มีโรงงานอยู่ที่ นิคมอุตสาหกรรม สหรัตนนคร และบริษัท เอเชียน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เพื่อรับฟังว่าผู้ประกอบการต้องการความช่วยเหลือ หรือมีปัญหาอย่างไรบ้าง และในวันทื่ 19 ต.ค.54 จะหารือกับผู้ประกอบการไทย และจะรวบรวมข้อมูลเพื่อที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย หรือ SMEs ได้มีการหารือบ้างแล้ว และยืนยันว่า สามารถช่วยเหลือได้อยู่แล้ว แต่รายใหญ่นั้น ยอมรับว่า ทางธนาคาร SMEs BANK ไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างเพียงพอ แต่จะต้องหาวิธีการอื่นๆ ที่เหมาะสมต่อไป “ยอมรับว่า โรงงานที่ได้รับผลกระทบโดยตรง และ Supply Chain ทั้งหลายกระทบด้วยต้องดูทั้งระบบ สถานการณ์ภัยพิบัติครั้งนี้รุนแรงและหนักมาก จนกระทบกระเทือนต่อจีดีพี งบประมาณถึง 1-1.7 ซึ่งถือว่าหนักเลยทีเดียว”
ด้าน นางสาวฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้อนุมัติปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุจากเดิมที่จ่ายให้ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 500 บาทต่อเดือน ในอัตราที่เท่ากันทั้งหมดเป็น ผู้ที่มีอายุ 60-69 ปี จ่าย 600 บาท อายุ 70-79 ปี จ่าย 700 บาท อายุ 80-89 ปี จ่าย 800 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไปจ่าย 1,000 บาท ทั้งนี้ การปรับเพิ่มเบี้ยยังชีพดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.55 จะมีผู้สูงอายุได้รับประโยชน์รวม 6.5 ล้านคน รวมงบประมาณ 52,228 ล้านบาท เพิ่มจากวงเงินเดิม 16,219 ล้านบาท