ที่ประชุม ครม.เงา ปชป.มีมติยื่นถอดถอน 2 รมต.แทรกแซง อสมท ต่อประธานวุฒิฯ หลังตรวจพบกระทำความผิดมาตรา 48 มาตรา 266 และมาตรา 268 มอบหมายฝ่าย กม.ยกร่างหนังสือเข้าสู่ที่ประชุมของพรรค เพื่อล่ารายชื่อ 125 ส.ส.
วันนี้ (12 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช และ รมต.ประจำสำนักประชาธิปัตย์ แถลงว่า ที่ประชุม ครม.เงามีการพิจารณาเรื่องการแทรกแซงการทำงานบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยที่ประชุมได้พิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหนังสือ 2 ฉบับของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ และสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ โดยข้อเท็จจริงเรื่องนี้กระทรวงการคลังพยายามจะอ้างเอาความเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ อสมท มากำหนดการบริหารงานของบอร์ด อสมท และกระทรวงการคลังไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพราะได้นำหุ้น อสมท ไปขายให้ประชาชนตั้งแต่ปี 2547 จึงไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ตาม พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 มาตรา 23
นายเทพไทกล่าวต่อ เรืองที่พิจารณาอีกคือว่า แม้ว่ามติของผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่สามารถบังคับบอร์ด อสมท ให้แต่งตั้ง หรือ ไม่แต่งตั้งใครก็ได้ เพราะบอร์ด อสมท.มีพ.ร.บ.หลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 89/7-8 และมี พ.ร.บ.มหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 มาตรา 77 กำกับอยู่ เพราะฉะนั้น เห็นว่ากระทรวงการคลังไม่มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงการบริหาร อสมท ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่อย่างใด และจากการตั้งข้อสังเกตในการรวมเร่งรัดการดำเนินการของ รมต.ประจำสำนักฯ และรมว.คลัง โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า หนังสือจาก รมต.ประจำสำนักนายกฯ ถึง รมว.คลัง และจากกระทรวงการคลังถึงสำนักงานนโยยายรัฐวิสาหกิจ ได้ทำภายในวันเดียวกัน คือ วันที่ 30 กันยายน และเดินหนังสือเสร็จภายใน 3 ชั่วโมง เป็นเรื่องผิดปกติของราชการ ครม.เงามีมติว่า เมื่อมีหลักฐานปรากฏชัดว่า รมต.ทั้งสองมีการกระทำความผิดมาตรา 48 มาตรา 266 และมาตรา 268 เห็นควรที่จะต้องดำเนินการถอดถอน ตามาตรา 270 ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
นายเทพไทกล่าวต่อว่า ทางพรรคได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายได้ยกร่างหนังสือถอดถอน รมต.ทั้งสองนำมาเข้าสู่ที่ประชุมของพรรค เพื่อให้ ส.ส.ของพรรคจำนวน 125 คนได้ลงชื่อเพื่อยื่นต่อประธานวุฒิสภาต่อไป