รมว.คมนาคมเผย “นครสวรรค์” วิกฤตซ้ำ เรือชนพนังกั้นน้ำพัง น้ำทะลักเทศบาล ประกาศอพยพประชาชนไปยัง 5 จุดที่เตรียมไว้ คาดรับผู้อพยพได้ประมาณ 1 หมื่นคน ยังมั่นใจเขื่อนเจ้าพระยายังสามารถรองรับปริมาณจำนวนมหาศาลได้
วันนี้ (10 ต.ค.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครสวรรค์ ว่าขณะนี้ที่ จ.นครสวรรค์ กำแพงน้ำถูกเรือส่งของชนแตก ซึ่งผู้ว่าราชการกับแม่ทัพภาคที่ 3 อยู่ในที่เกิดเหตุ และพยายามจะอุดจุดน้ำรั่วไหลเข้ามา ประมาณ 1 เมตร แต่หากไม่สามารถอุดรูรั่วได้ก็จะอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ โดยมีการจัดเตรียมไว้แล้ว 5 แห่งบริเวณโดยรอบเขากบ และมีการเตรียมอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้ป่วยนั้นจะนำเครื่องบินที่ไปส่งของนำผู้ป่วยมาด้วย ต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากัน มีทหารหลายร้อยนาย และกรมทางหลวงชนบทได้ส่งเครื่องมือไปช่วยด้วย
ขณะที่ นายวิม รุ่งวัฒนจินดา เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครสวรรค์ ถึงขั้นที่ต้องอพยพประชาชนเนื่องจากเกิดอุบัติเหตุเรือพุ่งชนซ้ำพนังกั้นน้ำครั้งที่ 2 ในเวลา 11.00 น. ส่งผลให้พนังกั้นน้ำแตก คาดว่าน้ำจะไหลเข้าตัวเมืองเทศบาล เนื่องจากบริเวณพนังกั้นน้ำอยู่ใกล้ตัวเมืองเพียง 3 กิโลเมตร ดังนั้น ภาครัฐจึงประกาศอพยพประชาชนไปยัง 5 จุดที่เตรียมไว้ คือ 1.สนามกีฬากลางจังหวัด 2.วิทยาลัยเทคโนโลยีนครสวรรค์ 3.วิทยาอาชีวะนครสวรรค์ 4.โรงเรียนนครสวรรค์ 2 และ 5.วัคคีรีวงศ์ ทั้ง 5 สถานที่ดังกล่าวสามารถรองรับประชาชนได้จำนวน 1 หมื่นคน ทั้งนี้ การอพยพผู้ป่วยที่อยู่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ควรย้ายไปที่สนามกีฬากลางจังหวัด เนื่องจากมีหลังคา โดยการอพยพประชาชนออกจากเขตเทศบาลจะใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง เพราะห่างจากจุดที่เตรียมไว้เพียง 3 กม.
นายวิมกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ต้องอพยพเนื่องจากพนังกั้นน้ำแตก และจังหวัดนครสวรรค์เป็นแหล่งรับ 4 สาย ปิง วัง ยม น่าน เช่นเดียวกับ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่เกิดวิกฤตเพราะเป็นแหล่งรับน้ำ 3 สายจากทั้งเจ้าพระยา ป่าสัก และลพบุรี ที่สำคัญเกิดจากอุบัติเหตุซึ่งเป็นปัญหาที่เกินความคาดหมาย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเขื่อนเจ้าพระยาจะสามารถรองรับน้ำที่ จ.นครสวรรค์ได้ จากการประเมินหากน้ำไหลจาก จ.นครสวรรค์ จะไหลผ่านเข้าเขื่อนเจ้าพระยา ผ่าน จ.ชัยนาท จากนั้นจึงจะเข้า จ.อุทัยธานี อ่างทอง ลพบุรี ปทุมธานี และกรุงเทพมหานคร ดังนั้นจะต้องมีการประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดว่าเขื่อนเจ้าพระยาจะสามารถรับน้ำได้มากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อว่ายังสามารถรับน้ำได้
นายวิมกล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก เนื่องจากจังหวัดอื่นๆ ไม่ได้มีความเสี่ยงรับน้ำเหมือน จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.นครสรวรรค์ และยืนยันได้ว่า ศปภ.จะประกาศอพยพก่อนที่จะเกิดเหตุ 7 ชั่วโมง