“ยิ่งลักษณ์” ประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมกับผู้ว่าฯ 3 จังหวัด สั่งวางแผนเตือนภัยรับมือพายุที่จะเข้ามาอีก 3 ลูก คาดใช้เงิน 4 หมื่นล้านแก้ปัญหาระยะยาว ด้านอธิบดีกรมชลฯ รับอ่างเก็บน้ำเต็มหมดแล้วจำเป็นต้องระบายน้ำออก หากฝนน้อยอีก 2-3 วันจะดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและการบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศอส.) ไปยังจังหวัดอุทัยธานี, อุบลราชธานี และจังหวัดอ่างทอง โดยมีนายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงมหาดไทย และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอให้นำแผนระยะยาวเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ที่มีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานให้สรุปปริมาณน้ำ น้ำทะเลที่จะหนุนสูง รวมทั้งข้อมูลพายุจากกรมอุตุนิยมวิทยา และให้กรมชลประทาน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หารือแผนเตือนภัยใน 2 วันนี้ซึ่งมีรายงานว่าจะมีพายุเข้าอีก 3 ลูก โดยให้ทุกฝ่ายเร่งทำงานแบบวันสต็อปเซอร์วิส และเร่งสรุปรายงานเสนอเข้ามาโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้เป็นเพียงมาตรการระยะสั้นเท่านั้น
ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวทุกจังหวัดได้เสนอโครงการมา คาดว่าจะใช้งบประมาณในการดำเนินการกว่า 40,000 ล้านบาท โดยจะมอบหมายให้คณะกรรมการชุดนายวิเชียร ชวลิต ที่ปรึกษานายกฯ ไปดำเนินการ ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีสอบถามการดำเนินการตามแผนบูรณาการ 2P2R ว่าการดำเนินการคืบหน้าไปมากเพียงใด เพื่อให้การแก้ปัญหามีความฉับไว
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รายงานสถานการณ์น้ำในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ ปริมาณน้ำในพื้นที่ภาคกลางเริ่มลดลงบ้างแล้ว ส่วนในภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนัก ยังคงต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่กรมชลประทานได้รายงานปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาว่ามีปริมาณที่ทรงตัว แต่ได้เฝ้าระวังในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตอนกลางตั้งแต่ จ.นครสวรรค์ลงมา เพราะจะส่งผลกระทบมาสู่ภาคกลางตอนล่าง
นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์ตอนนี้ฝนมาก อ่างเก็บน้ำส่วนใหญ่เต็มหมดแล้ว โดยเฉพาะทางภาคเหนือ จึงฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า น้ำทุกเขื่อนไหลเข้ามาเกินไป มีความจำเป็นต้องระบายน้ำออก แต่ก็ในการระบายออกนั้นไม่ได้ระบายแบบเต็มที่ ยังมีการเบรกน้ำอยู่ส่วนหนึ่ง ช่วงนี้ฝนน้อยลงคาดว่า 2-3 วันน่าจะดีขึ้น
นายวีระกล่าวว่า ปีนี้อากาศผิดปกติมากเกินความคาดหมาย น้ำมากเกินที่เขื่อนต่างๆ จะรับได้จริง หากพายุลูกใหม่ไม่กระทบภาคเหนือตอนบน สถานการณ์จะดีขึ้น ต้นเดือนตุลาคมน่าจะดีขึ้นแบบต่อเนื่อง คาดว่าต้นเดือนพฤศจิกายนน่าจะกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งในภาคเหนือและภาคกลาง
